Page 100 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 100

บทที่ ๕



                                        การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของเมียนมาร์


                                   และข้อเสนอแนะต่อท่าทีที่เหมาะสมของประเทศไทย






                         เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปในระดับนานาชาติว่า  การเมืองในประเทศเมียนมาร์กําลังอยู่ในช่วงการ


                  เปลี่ยนแปลง ด้วยการมีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น มีการเจรจาหยุดยิงกับกองกําลังของชนกลุ่มน้อย

                  มีการจัดการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งทําให้นางอองซาน ซูจี ได้มีโอกาสเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรในฐานะ

                  ฝ่ายค้าน  จนกระทั่งทําให้สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นต่อประเทศเมียนมาร์ ประเด็นที่

                  น่าสนใจคือ ประเทศเมียนมาร์จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การมีประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือไม่ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นใน

                  ขณะนี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวหรือภาพลวงตาเท่านั้น ในบทนี้จึงจะกล่าวถึงสถานการณ์ทางการ


                  เมืองของพม่าในปัจจุบันในทัศนะของผู้ลี้ภัยชาวพม่า และท่าทีที่เหมาะสมของประเทศไทย


                  ๕.๑  ทัศนะของผู้ลี้ภัยชาวพม่าต่อสถานการณ์ทางการเมืองของเมียนมาร์ในปัจจุบัน


                         ปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมาร์ ระหว่างรัฐบาลทหารกับชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะ

                  เป็นชาวมอญ ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง คะฉิ่น และชนกลุ่มอื่น ๆ เป็นปัญหาที่หมักหมมมานานหลายสิบปี

                  จนกลายเป็นปัญหาที่ซับซ้อน  ภายใต้ระบบเผด็จการทหารที่ครองอํานาจมาเกือบห้าสิบปี ไม่เพียงส่งผล


                  ให้ความขัดแย้งยืดเยื้อยาวนานเท่านั้น หากแต่ยังทําให้พลเมืองส่วนใหญ่ของพม่ามีระดับการศึกษาที่

                  ตกตํ่าลง อยู่ในสภาพยากจน แร้นแค้น และถูกละเมิดสิทธิ เสรีภาพทางการเมืองมาโดยตลอด


                         สถานการณ์ทางการเมืองของพม่าที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารพม่าโดยสิ้นเชิง ซึ่ง

                  ก่อให้เกิดการต่อต้านของพรรคการเมืองฝ่ายค้านรวมทั้งการปะทะระหว่างชนกลุ่มน้อยกับทหารพม่าทาง


                  ตอนเหนือของประเทศได้เพิ่มจํานวนมากขึ้น ทหารพม่าทําการข่มเหงประชาชนในพื้นที่ที่มีการสู้รบ

                  ซึ่งรวมถึงการการบังคับใช้แรงงาน การข่มขืน การฆ่าคนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การใช้มนุษย์เป็นโล่ในการ

                  สู้รบ จนเป็นที่มาของประเทศต่าง ๆ รวม ๑๖ ประเทศที่สนับสนุนการตั้ง United Nations Commission of

                  Inquiry  ในประเด็นการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงของทุกฝ่ายซึ่งร่วม
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105