Page 84 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 84

บันทึกไว้โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการ

                  ประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ  ซึ่งมีว่า เจตนารมณ์ของมาตรานี้เพื่อคุ้มครองเสรีภาพของประชาชน
                  ในการชุมนุม  กำาหนดให้บุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ  การจำากัดสิทธิ

                  และเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำาได้เฉพาะเมื่อมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้อำานาจไว้เพื่อคุ้มครอง
                  ประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการใช้ที่สาธารณะ  และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่าง

                  ภาวะสงครามระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้กฎอัยการศึก
                                        สาเหตุที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐ จะต้อง

                  บัญญัติไว้เช่นนี้  ด้วยเหตุเพราะหากบุคคลมุ่งที่จะใช้สิทธิและเสรีภาพที่ตนเองมีอยู่  โดยขาดการ
                  ตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นหรือความสงบเรียบร้อยของสังคมหรือสาธารณะแล้ว

                  จะเกิดสภาพของการใช้สิทธิและเสรีภาพที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นและ
                  สาธารณะทั่วไป  สุดท้ายแล้วการใช้สิทธิและเสรีภาพนั้นก็จะไม่เป็นไปตามความมุ่งหวังของ

                  รัฐธรรมนูญ  ดังนั้น หากมีการใช้สิทธิและเสรีภาพที่มีลักษณะดังที่ว่าแล้ว  รัฐจึงย่อมมีเหตุผล
                  ที่จะจำากัดการใช้สิทธิและเสรีภาพนั้นได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำาหนดไว้ กล่าวคือ

                  จะต้องกระทำาโดยกฎหมายหรือกฎ จะต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำาหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ และจะต้อง
                  ไม่กระทบต่อสาระสำาคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นด้วย  และเมื่อพิจารณาเฉพาะกรณีเสรีภาพใน

                  การชุมนุม  จะเห็นได้ว่า หากมีการกระทำาใดที่เป็นการขัดหรือแย้ง หรือไม่เป็นไปตามหลักของ
                  การใช้เสรีภาพในการชุมนุมแล้ว  รัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้รัฐสามารถจำากัดการใช้เสรีภาพได้

                  โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย  เข้าดำาเนินการเพื่อคุ้มครองความสะดวกของ
                  ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะ

                  สงคราม หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือประกาศใช้กฎอัยการศึก  ดังนั้น
                  ในข้อเท็จจริง  หากปรากฏว่าการใช้เสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
                  ที่รัฐธรรมนูญ  ตลอดจนกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองให้การ

                  รับรองไว้  และการใช้เสรีภาพที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์นั้น  เป็นการกระทบต่อประชาชนที่ไม่
                  เกี่ยวข้องกับการชุมนุม  รัฐจึงสามารถใช้อำานาจเข้าแทรกแซงการใช้เสรีภาพได้ตามที่รัฐธรรมนูญ

                  กำาหนด  แต่ในทางตรงกันข้าม หากปรากฏว่าการใช้เสรีภาพในการชุมนุมนั้น  อยู่ภายใต้กรอบ
                  ที่รัฐธรรมนูญกำาหนด  อันได้แก่  เป็นการชุมนุมที่สงบและเป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธแล้ว

                  ก็ไม่มีเหตุผลความจำาเป็นหรือความชอบธรรมใดที่รัฐจะอ้างเพื่อจำากัดการใช้เสรีภาพดังกล่าว


                                   (๒)  รัฐควรหลีกเลี่ยงการประกาศใช้กฎหมายพิเศษเพื่อดูแลความสงบและ

                                        ความเรียบร้อยในการชุมนุม เพราะไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดูแล
                                        สถานการณ์การชุมนุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ  รัฐจึงจำาเป็นต้องมีมาตรการ

                                        กฎหมายที่เหมาะสมหรือกลไกเฉพาะเพื่อดูแลและรักษาความสงบเรียบร้อย
                                        ในการชุมนุม




                                                         82
                                             รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
                                กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89