Page 81 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 81
มนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ ได้กำาหนดคำานิยามของ “สิทธิมนุษยชน” โดย
หมายความว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับ
การรับรองหรือคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตามกฎหมายไทย หรือตาม
สนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม” จะเห็นได้ว่า การชุมนุมถือว่าเป็น
เสรีภาพประเภทหนึ่งของบุคคล และอยู่ในความหมายของ “สิทธิมนุษยชน” ตามที่พระราชบัญญัติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติไว้
จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ มาตรา ๖๓ ข้างต้น จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองให้บุคคลสามารถ
ใช้เสรีภาพในการชุมนุม เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ตามเจตจำานง เช่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การเรียกร้องประโยชน์บางประการจากรัฐ เป็นต้น ซึ่งรัฐธรรมนูญ
ได้กำาหนดหลักเกณฑ์ของการใช้เสรีภาพดังกล่าวไว้ในสองประการสำาคัญ กล่าวคือ ประการที่หนึ่ง
การชุมนุมนั้นต้องเป็นไปด้วยความสงบ คือ ไม่มีการกระทำาใดที่ขัดต่อความเรียบร้อยของบ้านเมือง
และประการที่สอง การชุมนุมนั้นต้องปราศจากอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ (ตามประมวลกฎหมาย
อาญา “อาวุธ” หมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ แต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้
ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ) คือ ภายในอาณาบริเวณของการชุมนุมนั้น
จะต้องไม่มีการพกพาหรือซุกซ่อนอาวุธ ซึ่งรวมไปถึงการใช้อาวุธดังกล่าวด้วย อันเป็นมาตรการ
ในการป้องกันมิให้เกิดอันตรายหรือกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ชุมนุมและประชาชนอื่นที่
ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมนั้น
บทเรียนจากการชุมนุม ในปี ๒๕๕๓ ชี้ให้เห็นชัดว่า ผู้ชุมนุมขาดความ
เข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นเรื่องใหม่ นอกจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยการรู้เท่า
ไม่ถึงการณ์แล้ว การพิจารณาเรื่องผลกระทบของการชุมนุมต้องพิจารณาจากผลกระทบทางตรง
(ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ) และทางอ้อม (การเมือง เศรษฐกิจ) รวมทั้งผลกระทบในระยะสั้น
และระยะยาวด้วย
หลังจากการเคลื่อนขบวนและขยายพื้นที่ชุมนุม ยังปรากฏการกระทำาของ
กลุ่ม นปช. เกิดขึ้นอีกหลายเหตุการณ์ เช่น การเทเลือดที่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
และที่ทำาการพรรคประชาธิปัตย์ หน้ารัฐสภา การใช้เครื่องขยายเสียงที่ดังในพื้นที่การชุมนุม
การเคลื่อนขบวนไปตามหน่วยงานต่างๆ และเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมในการชุมนุม การบุก
เข้าไปตรวจค้นในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ การนำาเด็กและสตรีรวมถึงพระภิกษุไปอยู่แนวหน้า
ของการชุมนุมในลักษณะเป็นโล่มนุษย์ การสร้างแนวป้องกันการชุมนุม (บังเกอร์) ด้วยไม้ไผ่
และยางรถยนต์ การปลุกระดมและยั่วยุให้ผู้ชุมนุมสร้างความรุนแรงและเผาทำาลายทรัพย์สิน
การเกิดเหตุจลาจลหลังจากที่แกนนำามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำารวจ เป็นต้น ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ได้
กล่าวข้างต้นนี้ ถือเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพที่ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น รวมถึง
79
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓