Page 124 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 124
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
98 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งได้กำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน ตาม
หลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖๗ วรรคสอง จำานวน
๑๑ ประเภทโครงการ ทั้งนี้ เพราะการกำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการตามประกาศดังกล่าว
ยังไม่ครอบคลุมประเภทโครงการหรือกิจการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชน
เนื่องจาก ยังมีโครงการหรือกิจการต่างๆ อีกหลายประเภทที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ
ชุมชน แต่อาจไม่เข้าข่ายต้องดำาเนินการ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการหรือ
กิจการที่เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การถมทะเล
ของโครงการท่าเรือน้ำาลึกปากบารา จังหวัดสตูล โครงการเหมืองแร่โพแทช จังหวัดอุดรธานี เหมือง
ทองคำา ที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย โครงการขยายสนามบิน
ที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการผันน้ำาจำานวนมากที่อาจส่งผลต่อระบบนิเวศและ
ชุมชน เป็นต้น
๒) ในการทบทวนปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมสำาหรับโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้าน
คุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ตามข้อ ๑) ใน ๕.๑.๑ จะต้องคำานึงถึงพื้นที่ตั้ง
ของโครงการหรือกิจกรรม ซึ่งไม่ควรอนุญาตให้ดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบ
ทุกประเภท เช่น แหล่งมรดกโลกที่ขึ้นบัญชีตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ อุทยานประวัติศาสตร์
แหล่งโบราณสถานโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ตามกฎหมาย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ พื้นที่ป่า
อนุรักษ์เพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี พื้นที่ชุ่มน้ำาที่มีความสำาคัญระหว่างประเทศ พื้นที่ลุ่มน้ำาชั้น ๑
๒๓
พื้นที่ประกาศเขตควบคุมมลพิษ พื้นที่ซึ่งมีศักยภาพในการรองรับ (Carrying Capacity) ที่มี
ขีดจำากัด พื้นที่ที่มีข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์หรือที่สงวน และพื้นที่
เพื่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พื้นที่ซึ่งมีข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นที่ดินประเภท
ชุมชน ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ชนบท และเกษตรกรรมตามกฎหมายเกี่ยวกับการผังเมือง เป็นต้น
ดังนั้น โครงการหรือกิจกรรมใดๆ ที่ไม่อยู่ในประกาศกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตาม ข้อ ๑) ใน ๕.๑.๑ หากมีความจำาเป็นต้องดำาเนินการเพื่อการอันเป็น
ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ ได้
๒๓
พิจารณาผลการศึกษาเบื้องต้นศักยภาพในการรองรับอุตสาหกรรมของพื้นที่มาบตาพุด ตามที่สำานักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ซึ่งตามผลการศึกษาดังกล่าว ได้นิยาม
“ศักยภาพในการรองรับ” (Carrying Capacity) ว่าหมายถึง ระดับความสามารถในการรองรับอุตสาหกรรม
ของพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งภายใต้ขีดจำากัดของทรัพยากรที่มีอยู่ ทั้งทรัพยากรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและที่มนุษย์
สร้างขึ้นใน ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านกายภาพ ด้านนิเวศวิทยา และด้านสังคม ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานที่เป็นที่
ยอมรับในระดับสากล

