Page 107 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 107

ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 81
                                                               รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ






                            ๔.๔ ผลกระทบต่อสิทธิของชุมชนมาบตาพุด  อันเนื่องจากการไม่ดำาเนินการตามเจตนารมณ์

                     ของรัฐูธรรมนูญ

                                รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐  มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗
                     วรรคสอง มีเจตนารมณ์ให้ความคุ้มครอง “ชุมชน”  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบที่อาจเกิด

                     ต่อชุมชน  อันเนื่องมาจากการดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง
                     ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชนในชุมชน  แต่ในกรณี

                     การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดระยอง
                     ตามข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก  ปรากฏว่า รัฐบาลยังไม่ได้ดำาเนินการเพื่อให้

                     ความคุ้มครองชุมชนจากผลกระทบอันเนื่องมาจากการดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิด
                     ผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชน

                     ในพื้นที่มาบตาพุดและพื้นที่โดยรอบในจังหวัดระยองให้เกิดผลเป็นจริง  ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
                     ยังเผชิญกับปัญหาวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ ถึงแม้ว่าจะได้ประกาศให้เป็นเขตควบคุมมลพิษ

                     แล้ว  ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิของชุมชนมาบตาพุดในการที่จะดำารงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่อง
                     ในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน
                                                                                      ๑๔
                     ตามมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ดังนี้

                                ๔.๔.๑  ชุมชนได้รับมลพิษเพิ่มขึ้นโดยขาดการควบคุมที่รอบคอบ โดยเฉพาะในพื้นที่
                     มาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประกาศให้เป็นเขต

                     ควบคุมมลพิษ และอยู่ในระหว่างการดำาเนินการลดมลพิษ เพราะจะมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อย
                     มลพิษเพิ่มสูงขึ้น ชุมชนจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีที่มีพิษเพิ่มขึ้นจากเดิม  ทั้งที่พบว่ามีสารพิษ

                     สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่แล้ว เช่น มีสารก่อมะเร็งกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่ายสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน
                     ในอากาศ และพบโลหะหนัก ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในน้ำาและดินสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน รวมทั้งขาด

                     บ่อขยะกำาจัดสารพิษในพื้นที่เพื่อรองรับการขยายตัวของโรงงานที่เพิ่มขึ้นด้วย

                               ดังนั้น  สิทธิของชุมชนในพื้นที่นี้จึงได้รับผลกระทบ คือ ไม่สามารถดำารงชีพได้อย่างปกติ
                     และต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพ

                     ชีวิต เพราะชุมชนจะได้รับสารพิษจากโรงงานเพิ่มมากขึ้น  รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง
                     ในด้านเสียง ฝุ่น การจราจร และจำานวนคนงานที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยขาดมาตรการ

                     เฝ้าระวังผลกระทบที่รอบคอบ



                     ๑๔
                        เรณู  เวชรัชต์พิมล และคณะ, เครือข่ายวิชาการเพื่อการเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ มหาวิทยาลัย
                        ศิลปากร, ข้อเท็จจริงที่ค้นพบจากเอกสารการทำา E/HIA ของโครงการ : สารก่อมะเร็งและสารเคมีที่มีผล
                        กระทบต่อการทำางานของระบบและอวัยวะสำาคัญของมนุษย์ ของโครงการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด
                        และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดระยอง (นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๓) น. ๑ - ๒.
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112