Page 106 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 106
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
80 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
อิสระไม่น่าจะเป็นเพียงผู้ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำาเนินการว่า โครงการหรือกิจกรรมนั้น
มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงหรือไม่เท่านั้น แต่น่าจะหมายความรวมถึง
เป็นผู้วางมาตรฐานเบื้องต้นในการกำาหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่มีลักษณะเข้าข่ายที่อาจ
ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงด้วย
จากข้อพิจารณาข้างต้น จึงเห็นได้ว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่ง
๑๓
ราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ฉบับปี ๒๕๔๐ ต่อเนื่องมาจนถึงฉบับปี ๒๕๕๐ กำาหนดให้มีองค์การอิสระ
เพื่อทำาหน้าที่พิจารณากำาหนดประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่เข้าข่าย ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง
อีกทั้งมีข้อสังเกตว่า หากใช้กลไกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติส่งเสริม
คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่เป็นตัวแทนจากหน่วยงานของรัฐ
และภาคเอกชนซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหรือเกี่ยวข้องกับโครงการด้วย และเป็นองค์กรที่จะต้องถูก
ตรวจสอบถ่วงดุลการตัดสินใจจากองค์การอิสระสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติจะเลือกประกาศกำาหนดประเภทโครงการอย่างจำากัด และการที่ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติที่จะต้องถูกถ่วงดุลการตัดสินใจจากองค์การอิสระ เป็นผู้กำาหนดประเภทโครงการ
หรือกิจกรรมที่เป็นกรอบให้องค์การอิสระทำางานย่อมกระทบต่อ “ความเป็นอิสระ” ของ
“องค์การอิสระ” ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำางาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายกำาหนดรายละเอียด
เกี่ยวกับองค์การอิสระดังกล่าว แม้ว่าจะมีการจัดตั้งองค์การอิสระ ตามประกาศสำานักนายก
รัฐมนตรี ลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๓ เรื่อง การประกาศการจัดตั้งองค์การอิสระ เพื่อทำา
หน้าที่ให้ความเห็นประกอบโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่าง
รุนแรง ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
แต่องค์การอิสระดังกล่าวเป็นเพียงองค์การอิสระเฉพาะกาลในระหว่างที่กฎหมายว่าด้วย
องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ยังไม่มีการประกาศใช้บังคับเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงสมควรรีบดำาเนินการ
จัดให้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับองค์การอิสระให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งควรจะเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ภายหลังครบ
หนึ่งปี นับแต่คณะรัฐมนตรีชุดแรกที่รัฐธรรมนูญ ฉบับปี ๒๕๕๐ ประกาศใช้ ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ แล้ว
๑๓
คณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ,
เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ (กรุงเทพมหานคร : สำานักกรรมาธิการ ๓
สำานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,๒๕๕๐) น. ๖๐- ๖๑.

