Page 102 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 102

รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
             76 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก




                  การทำาให้สิทธิของประชาชนและชุมชนในพื้นที่มาบตาพุดให้เกิดขึ้นเป็นจริง ดังกรณีต่อไปนี้

                                   รัฐบาลยังไม่ได้ดำาเนินการวางนโยบายหรือมาตรการที่จำาเป็นและเพียงพอที่จะ

                  สนับสนุนให้ประชาชนได้สามารถใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่  นอกจากนี้ ยังพบว่า รัฐบาลขาดการ
                  ดำาเนินการที่จริงจังต่อเนื่อง ที่จะทำาให้ผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงสิทธิของประชาชนและชุมชน
                  ในพื้นที่รัฐบาลไม่ได้จัดกระบวนการเพื่ออำานวยความสะดวก (Facilitate) ในการดูแลประชาชน

                  ผู้ได้รับผลกระทบ เช่น กรณีรัฐบาลไม่ได้กำาหนดแนวทาง และ/หรือมาตรการช่วยเหลือประชาชน

                  ในการพิสูจน์ว่า  โครงการหรือกิจการใดเป็นโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน
                  อย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ตามมาตรา ๖๗
                  วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐  ทั้งที่ภาระในการพิสูจน์

                  ในเรื่องนี้มีความยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยความรู้ ความชำานาญทางเทคนิควิชาการหลายด้าน

                  แต่ปัจจุบัน รัฐบาลได้ผลักภาระให้ประชาชนในการพิสูจน์กรณีที่ได้รับผลกระทบจากโครงการหรือ
                  กิจการใดที่ไม่อยู่ใน ๑๑ ประเภทโครงการหรือกิจการ (ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
                  สิ่งแวดล้อม ฉบับลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓) รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบและประสงค์จะเรียกร้อง

                  ให้เจ้าของโครงการหรือกิจการต้องปฏิบัติ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง หรือให้มีการชดเชยความ

                  เสียหายจากผลกระทบ  ทำาให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต้องร้องเรียนและฟ้องคดีเพื่อ
                  เรียกร้องสิทธิของตนเอง  ดังเช่นกรณีการร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก  และกรณี
                  สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน  สมาคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์

                  ทรัพยากรธรรมชาติ กับพวก รวม ๔๓ คน ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐ ๘ หน่วยงาน

                                   รัฐบาลมิได้จัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ หรือกำาหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิด
                  การฟื้นฟู เยียวยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม หรือใกล้เคียงกับสภาพเดิม หรือทำาให้ผู้ถูกละเมิดสิทธิ

                  ได้รับความพึงพอใจอย่างแท้จริง  ดังกรณีการประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับลงวันที่
                  ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ (เอกสารท้ายประกาศ) กำาหนดแนวทางการจัดทำารายงานการวิเคราะห์ผล

                  กระทบสิ่งแวดล้อมสำาหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทาง
                  ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ  โดยกำาหนดให้มีการระบุมาตรการป้องกัน

                  และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการชดเชย  ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น
                  รวมถึงแผนการชดเชยความเสียหายดังกล่าว แต่กลับไม่ได้กำาหนดให้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการคำานวณ

                  ค่าชดเชยและการเยียวยา  รวมทั้งระยะเวลาการจ่ายเงิน  ทำาให้สิทธิของประชาชนในการได้รับการ
                  เยียวยาไม่ได้เกิดขึ้นจริง

                                   รัฐบาลขาดการสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนได้มีศักยภาพที่จะ

                  เข้าถึงหรือใช้สิทธิต่างๆ ได้อย่างเต็มที่และมีความหมาย  ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจ ความ
                  ตระหนัก หรือการเสริมสร้างศักยภาพที่ประชาชนสามารถจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการประเมิน

                  ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในลักษณะที่จะคุ้มครองสิทธิของชุมชนได้อย่างเต็มที่
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107