Page 105 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 105
ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 79
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
“รูปแบบและกฎหมายว่าด้วยองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อม” ของคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร
๙
ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ
๑๐
สภาผู้แทนราษฎร ในส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ รายงานฯ เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๐ นั้น
สามารถสรุปความได้ว่า โดยหลักการนั้นผู้ร่างรัฐธรรมนูญห้ามดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อ
ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากห้ามดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจ
ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง (ซึ่งในการประชุมคณะกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญฯ
๑๑
ใช้คำาว่า “เกินสมควร” ) ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพไว้
โดยเด็ดขาด ก็อาจทำาให้ไม่สามารถดำาเนินกิจกรรมใดๆ ได้เลย โดยเฉพาะโครงการหรือกิจกรรม
ที่ควรมีเพื่อประโยชน์สาธารณะ ด้วยเหตุนี้ ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๔๐ จึงได้บัญญัติคำาว่า
“เกินสมควร” ไว้ เพื่อเป็นเกณฑ์ชี้ว่า การกระทำาสิ่งนั้นหากไม่เกินสมควรก็สามารถกระทำาได้ แต่คำาว่า
“เกินสมควร” นี้ ก็ยังมีข้อถกเถียงในประเด็นที่ว่า แค่ไหน อย่างไร จึงจะเรียกได้ว่าเกินสมควรแล้ว
จึงจำาเป็นต้องสร้างกลไกองค์การอิสระขึ้นมาเป็นผู้ให้ความเห็นประกอบ
เมื่อพิจารณาจากการอภิปรายบทบัญญัติแห่ง (ร่าง) รัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ ๑๒
จะเห็นได้ว่า แท้จริงแล้ว เดิมผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องการให้องค์การอิสระเป็นกลไกกลางในการบอก
กล่าวว่า การกระทำาใดเป็นการกระทำาที่เรียกได้ว่า “เกินสมควร” หรือโครงการ หรือกิจกรรมใด
ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน “เกินสมควร” หรือ “อย่างรุนแรง”
หมายความว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้องค์การอิสระเป็นกลไก
หรือผู้พิจารณากำาหนดว่า โครงการหรือกิจรรมใดที่เรียกว่าอาจก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางด้านคุณภาพ
สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ต่อชุมชน โดยเกินค่ามาตรฐานไปอย่างมาก โดย องค์การ
๙
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์ เรื่อง รูปแบบ
และกฎหมายว่าด้วยองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อม เสนอต่อ สำานักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
ประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรุงเทพมหานคร :
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล,๒๕๔๕) น. ๑๐๒ - ๑๐๓.
๑๐
บันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร วันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน
๒๕๔๐ ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๒๑๓ – ๒๑๖.
๑๑
ตามเอกสาร เรื่อง เจตนารมณ์ของการบัญญัติ เรื่อง องค์การอิสระสิ่งแวดล้อมและสุขภาพตามรัฐธรรมนูญ
๒๕๔๐ ของมหาวิทยาลัยมหิดล หน้าที่ ๗ ได้อธิบายความแตกต่างของคำาว่า “เกินควร” และ “อย่างรุนแรง”
ไว้ ดังนี้
คำาว่า “เกินควร” หมายความว่า เกินค่ามาตรฐาน
คำาว่า “อย่างรุนแรง” หมายความว่า เกินค่ามาตรฐานไปอย่างมาก
๑๒
การอภิปรายร่างที่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการในมาตรา ๕๗ ซึ่งต่อมา คือ มาตรา ๕๖ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ และหลักการตามมาตรานี้ได้บัญญัติไว้ใน
มาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยตัดคำาว่า “ทั้งนี้ ตามที่กฎหมาย
บัญญัติ” เพื่อให้สามารถใช้สิทธิได้ทันที

