Page 103 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 103

ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 77
                                                               รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ






                            ๔.๓ เจตนารมณ์ที่แท้จริงของมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช

                     ๒๕๕๐  คือ การคุ้มครองสิทธิชุมชน

                                ๔.๓.๑ เจตนารมณ์ในการคุ้มครองสิทธิชุมชนที่มิใช่กระบวนการออกใบอนุญาต
                                      เจตนารมณ์ที่แท้จริงของ มาตรา ๖๗ ทั้งสามวรรค ประกอบกับ มาตรา ๖๖ คือ

                     การมุ่งรับรองและคุ้มครองทั้ง “สิทธิของบุคคล (Individual Right)” และ “สิทธิชุมชน (Community

                     Right)”  โดยสิทธิใน มาตรา ๖๗ วรรคหนึ่ง เป็นสิทธิของบุคคลไม่ใช่สิทธิของชุมชน  กล่าวคือ  เป็น
                                                                                     ๘
                     “สิทธิในการมีส่วนร่วม (Right to Participate)” ไม่ใช่ “สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี”    และเป็นสิทธิในการ
                     มีส่วนร่วมกับ ๒ ฝ่าย คือ ร่วมกับรัฐ และร่วมกับชุมชน ในการกระทำา ๓ เรื่อง ดังนี้

                                      ๑)  ร่วมในการ อนุรักษ์ บำารุงรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลาย

                                            ทางชีวภาพ
                                      ๒)  ร่วมในการ ได้ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลาย
                                            ทางชีวภาพ

                                      ๓)  ร่วมในการ คุ้มครอง ส่งเสริม และรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อม

                                      แม้กฎหมายจะใช้ถ้อยคำาตอนหนึ่งใน มาตรา ๖๗ วรรคหนึ่ง ว่า “เพื่อให้ดำารงชีพ
                     อยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่อง ในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ

                     หรือคุณภาพชีวิต”  ก็ไม่ได้ทำาให้บุคคลมีสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะถ้อยคำาดังกล่าวเป็นเพียง
                     วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของสิทธิอีกเรื่องหนึ่งของบุคคล  นั่นก็คือ “สิทธิที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐ

                     และชุมชน” ในการอนุรักษ์ บำารุงรักษา ได้ประโยชน์ และคุ้มครองส่งเสริมรักษา ๓ สิ่ง  ซึ่งได้แก่
                     ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

                                      ส่วน “สิทธิชุมชน” นั้น เป็นสิทธิเชิงกลุ่ม (Group Right or Collective Right)
                     ที่มีวิวัฒนาการมาจากจารีตประเพณีและได้นำามารับรองอย่างเป็นทางการไว้ในกฎหมายบ้านเมือง

                     ภายใต้แนวคิดของสำานักความคิดมานุษยวิทยาทางกฎหมาย (Anthropological Jurisprudence)
                     โดย “สิทธิ” ของ “ชุมชน” เขียนไว้อย่างแจ้งชัด ในมาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ วรรคสาม ทำาให้ชุมชน

                     มีสิทธิในเรื่องต่อไปนี้



                        “สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี” ซึ่งมีลักษณะเป็น “สิทธิเชิงเนื้อหา (Substantive Right)” ยังไม่ได้รับการบัญญัติไว้
                     ๘
                        อย่างชัดแจ้งในกฎหมายภายในของไทย  คงมีแต่เพียงการเขียนไว้ในฐานะที่เป็น “วัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย
                        (Objective or Goal)” ของเรื่องอื่น  หรือมิฉะนั้น ก็มีการเขียนถึงแต่สิทธิประเภทอื่นที่มีลักษณะเป็น
                        “สิทธิเชิงกระบวนการ (Procedural Right)” และสิทธิเชิงกระบวนการนั้น  เป็นช่องทางที่จะนำาไปสู่สิทธิใน
                        สิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งเป็นสิทธิเชิงเนื้อหาอีกขั้นหนึ่งต่อไปในอนาคต ดังจะเห็นได้จากลักษณะการเขียน
                        บทบัญญัติในมาตรา ๖๗ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
                        ๒๕๕๐ กล่าวคือ ในขณะที่มาตรา ๖๗ วรรคหนึ่ง  เป็นตัวอย่างของการเขียนไว้ในฐานะที่เป็นวัตถุประสงค์
                        หรือเป้าหมายของสิทธิเรื่องอื่น  มาตรา ๖๗ วรรคสอง เป็นตัวอย่างของการเขียนไว้ในฐานะที่เป็นสิทธิ
                        เชิงกระบวนการ เพื่อเป็นช่องทางที่จะนำาไปสู่สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีการ
                        กำาหนดไว้ในกฎหมาย จึงเป็นกรณีที่ใช้เป็นช่องทางที่จะนำาไปสู่สิทธิในวรรคหนึ่งของมาตราเดียวกัน
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108