Page 101 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 101

ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 75
                                                               รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ






                     การวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ก็มิได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

                     แต่เป็นเพียงการดำาเนินการตามแบบพิธีเท่านั้น ซึ่งทำาให้สิทธิดังกล่าวไม่ได้รับการเคารพ


                                ๔.๒.๒ รัฐบาลบกพร่องในการปฏิบัติตามพันธกรณีของรัฐในการปกป้อง (Obligation
                     to Protect)  โดยรัฐบาลขาดระบบ มาตรการ และกลไกในการปกป้องสิทธิของประชาชนในชุมชน

                     อันเกิดจากการกระทำาของภาคเอกชนและอุตสาหกรรม  โดยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นดังที่ได้กล่าว
                     แล้วในข้อ ๓ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ เช่น การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

                     ไม่ได้ดำาเนินมาตรการป้องกันอย่างเพียงพอ (Adequate Precautionary Measures) ในการป้องกัน
                     ปัญหา  รัฐบาลไม่ได้วางแนวทางและ/หรือบังคับใช้กฎหมายและระเบียบอย่างเพียงพอในการควบคุม

                     การดำาเนินงานของภาคอุตสาหกรรม  ขาดการติดตามตรวจสอบการดำาเนินงานของผู้ประกอบกิจการ
                     ให้เป็นไปตามกฎหมาย  และขาดการดำาเนินมาตรการลงโทษที่จริงจังเพื่อยับยั้งมิให้เกิดการละเมิด

                     กฎหมายหรือมาตรฐานต่างๆ  การที่รัฐบาลไม่สามารถป้องกันมิให้เกิดการละเมิดหรือคุกคามจาก
                     ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมต่อสิทธิของประชาชนและชุมชนได้  เห็นได้จากกรณีที่โรงพยาบาล

                     ส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้เขตนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย  ขาดความพร้อมในการเตรียมรับอุบัติภัย
                     สารเคมีและวัตถุอันตราย  ทั้งในด้านการบริหารจัดการ  การป้องกันการปนเปื้อนสารเคมี  และการ

                     เตรียมบุคลากร  ตลอดจนการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของพื้นที่  ทั้งที่
                     รัฐบาลอยู่ในวิสัยที่สามารถจะดำาเนินการได้ นั้น  ถือเป็นความบกพร่องที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ

                     โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีการประกาศกำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบ
                     ต่อชุมชนอย่างรุนแรง  ทำาให้โครงการหรือกิจการที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง  แต่ไม่มี

                     การระบุไว้ในประกาศ  สามารถดำาเนินการได้ต่อไปโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง
                     จึงไม่สามารถคุ้มครองสิทธิชุมชนอย่างแท้จริง

                                      แม้รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการสี่ฝ่าย เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการปฏิบัติ
                     ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐ แล้วก็ตาม

                     แต่ก็ยังมีการไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอและข้อตกลง  อีกทั้งยังใช้กลไกที่ไม่สามารถตรวจสอบความ
                     โปร่งใสหรือขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น คณะกรรมการผู้ชำานาญการพิจารณารายงานผล

                     กระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  และคณะอนุกรรมการวินิจฉัย
                     ข้อร้องเรียนสำาหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้าน

                     คุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ เป็นกลไกที่กำาหนดเกณฑ์มาตรฐานโครงการ
                     หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงแทน เป็นต้น


                                ๔.๒.๓ รัฐบาลบกพร่องในการดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นและเพียงพอที่จะทำาให้สิทธิของ

                     บุคคลและชุมชนในพื้นที่เกิดผลและเป็นจริงขึ้นได้ในเวลาที่เหมาะสม (Obligation to Fulfill)

                                      ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  รัฐบาลมิได้ดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นและเพียงพอใน
   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106