Page 99 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 99

ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 73
                                                               รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ






                     ต่อเนื่องว่า  ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอย่างรุนแรงและเรื้อรังจากมลพิษที่เกิด

                     จากการประกอบการของโรงงานอุตสาหกรรมมาเป็นระยะเวลายาวนาน เช่น กรณีปัญหาที่เกิดจาก
                     การรั่วไหลของสารเคมีจนเกิดอันตรายอย่างร้ายแรง  ปัญหากลิ่นรบกวนอย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบ

                     ต่อสุขภาพ  รวมถึงต้องอพยพประชาชนในพื้นที่  โยกย้ายโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร และชุมชน
                     มีประชาชนเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุเหล่านั้น  แต่จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลยังคง

                     แก้ไขปัญหาในลักษณะเฉพาะหน้า  ขาดความจริงจังและจริงใจที่จะดำาเนินการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง
                     และเป็นธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบ  จนทำาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายต้องรวมตัว

                     เรียกร้องอย่างยืดเยื้อยาวนานถึง ๕ ปี  ต้องไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองด้วยตนเองเพื่อคุ้มครองสิทธิ
                     ของตนและชุมชน

                                นอกจากสิทธิของประชาชนและชุมชนในพื้นที่ที่จะเข้าถึงสิทธิในสุขภาพที่ดี ทรัพยากร

                     ธรรมชาติที่มีคุณภาพ และสิ่งแวดล้อมที่ดี ถูกละเมิดอย่างรุนแรงหนักหน่วง ซ้ำาซากแล้ว  ยังมีผล
                     กระทบไปถึงการละเมิดสิทธิต่างๆ อีกมาก  ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเข้าถึงน้ำา  สิทธิเด็กที่จะได้รับ
                     มาตรฐานการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ  สิทธิในการศึกษา  สิทธิในการประกอบอาชีพ  สิทธิในความ

                     เป็นอยู่ส่วนตัว ฯลฯ  ตลอดจนสิทธิในกระบวนการต่างๆ ที่จะทำาให้สิทธิข้างต้นได้รับการคุ้มครอง

                     เช่น  สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสารที่จะกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของตน  สิทธิในการมีส่วนร่วม
                     ในการกำาหนดนโยบายและกิจการของรัฐอย่างมีความหมาย  เช่น  แผนการพัฒนาและขยายพื้นที่
                     อุตสาหกรรม  การวางผังเมือง  ทั้งที่เรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตของประชาชน

                     และชุมชนที่อาศัยอยู่แต่ดั้งเดิม

                                สิทธิของประชาชนในพื้นที่  นอกจากจะถูกละเมิดโดยนโยบาย แผนงาน และมาตรการ
                     ของรัฐที่มุ่งการขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจและอำานวยความสะดวกให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและ

                     การลงทุนเป็นสำาคัญแล้ว  รัฐยังมิได้มีการกำาหนดมาตรการที่ชัดเจนให้แก่ภาคเอกชนที่จะดำาเนิน
                     กิจการโดยไม่ไปกระทบกับวิถีชีวิตของชุมชน หรือสิทธิของประชาชน หรือหากจะมีผลกระทบ ก็ควร

                     จำากัดให้มีน้อยที่สุด  และมีกระบวนการเยียวยาที่ชัดเจนเป็นธรรม  เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและอยู่
                     ร่วมกันได้ระหว่างชุมชนที่อาศัยอยู่ก่อนกับอุตสาหกรรม   ในขณะเดียวกัน ก็มีภาคเอกชนที่เข้าไป

                     ประกอบอุตสาหกรรมในพื้นที่จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่  แต่รัฐกลับละเลยหรือขาดการ
                     บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีระบบ กลไก และความตั้งใจที่จะกำากับ ดูแล และแก้ไขปัญหา

                     อย่างจริงจังต่อเนื่อง ที่จะป้องกันมิให้ภาคเอกชนไปละเมิดสิทธิของประชาชนและชุมชน ตลอดจน
                     การเยียวยาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จนทำาให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

                                หากจะพิจารณาในภาพที่กว้างขึ้น  จะเห็นได้ว่า สิทธิในการพัฒนาของประชาชนและ

                     ชุมชนในพื้นที่มิได้รับการเคารพ  ประชาชนไม่สามารถที่จะกำาหนดเจตจำานงของตนเองที่จะดำาเนินชีวิต
                     อย่างเสรี ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยอาศัยทรัพยากรและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ

                     ในพื้นที่ได้  ประชาชนถูกลิดรอนสิทธิที่จะดำาเนินชีวิตเพื่อยังชีพของตน เช่น การทำาสวนผลไม้ การทำา
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104