Page 93 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 93
การละเมิดสิทธิแรงงาน
คนทำงานภาคเอกชน
ผู้บังคับบัญชาดำเนินการเพื่อให้ผู้นำลูกจ้างพ้นจากตำแหน่งกรรมการลูกจ้างโดยมิชอบด้วย
กฎหมาย กล่าวคือ ได้ร่วมกับลูกจ้างของผู้ว่าจ้างที่เป็นผู้ควบคุมงาน รวบรวมรายชื่อและลายมือชื่อ
ของลูกจ้างเพื่อปลดกรรมการลูกจ้าง โดยให้ลูกจ้างลงลายมือชื่อในกระดาษที่ได้จัดเตรียมไว้และด้าน
บนกระดาษระบุข้อความว่า รายชื่อปลดกรรมการลูกจ้าง ไม่มีการประชุมลูกจ้าง เพื่อนำเสนอข้อมูล
หรือเหตุผลในการปลด และรับฟังข้อโต้แย้งก่อนที่จะลงมติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแรงงาน
สัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๔๘
นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือแจ้งเรื่องกรรมการลูกจ้างพ้นจากตำแหน่งให้นายจ้างทราบในทันที
และนายจ้างก็ได้เลิกจ้างผู้นำลูกจ้างทันที แต่กลับแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการ
และคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ในภายหลังอีก ๓ วันต่อมา
เห็นว่า ผู้บังคับบัญชาเสมือนเป็นตัวแทนของนายจ้าง จะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ไม่มี
ประโยชน์ส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องดังกล่าว แต่กรณีนี้เป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการ
ของนายจ้างที่ไม่ต้องการให้มีสหภาพแรงงาน และนำบุคคลภายนอกมาร่วมดำเนินการด้วยโดย
ไม่สุจริต และไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. ๒๕๑๘ (รายงานผลการ
ตรวจสอบ กรณี บริษัท มิตเฟรท จำกัด ผู้ถูกร้อง อ้างแล้ว)
(๔) นายจ้างในกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เลิกจ้างลูกจ้างจำนวน ๙ คน
เพราะเหตุลูกจ้างเป็นประธานและกรรมการสหภาพแรงงาน หลังจากได้รับการเลือกตั้งเพียง ๑ วัน
ซึ่งนายจ้างเคยเลิกจ้างคณะกรรมการสหภาพแรงงานชุดแรกทั้งคณะมาแล้ว โดยจ่ายค่าตอบแทนเพิ่ม
เติมนอกเหนือจากค่าชดเชยตามกฎหมาย และให้ลูกจ้างจำนวน ๑๑๙ คน ลาออกโดยจ่ายค่าชดเชย
ให้ตามกฎหมาย ในจำนวนนั้นเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานจำนวน ๑๐๗ คน
ส่วนเหตุผลที่นายจ้างอ้างเรื่องโรคซาร์ส และลูกค้าลดลงไม่มีเหตุผลและพยานหลักฐาน
เพียงพอ ประกอบกับฝ่ายนายจ้างชี้แจงว่าได้ทำบัญชีลูกจ้างที่จะต้องปลดออก จำนวน ๒๒ คนไว้
ก่อนที่จะเดินทางไปสำรวจตลาดในต่างประเทศแล้ว เห็นได้ว่าเป็นการเจาะจงเลิกจ้างลูกจ้างทั้ง ๒๒
คน เพราะเหตุที่ลูกจ้างดังกล่าวเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานสหภาพแรงงานต่อไป
ประกอบกับแถลงการณ์ร่วมของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต หอการค้าจังหวัด
ภูเก็ต และสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ระบุชัดเจนถึงการที่องค์กรดังกล่าวไม่ยอมรับการ
จัดตั้งสหภาพแรงงานในจังหวัดภูเก็ต (รายงานผลการตรวจสอบที่ ๑๐๕/๒๕๕๐ กรณี
นายเจษฎา กลับเกตุ ผู้ร้อง บริษัท ไดมอนด์คลิฟ จำกัด ผู้ถูกร้อง)
(๕) นายจ้างในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเจตนายื่น
ข้อเรียกร้องสวนทางในลักษณะกีดกัน เลือกปฏิบัติ และมีสภาพการจ้างหลายมาตรฐานใน
สถานประกอบการ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานายจ้างไม่เคยยื่นข้อเรียกร้องสวนทางเลย ทั้งนี้
เพื่อกดดันให้สหภาพแรงงานจำยอมตามเงื่อนไขของนายจ้าง ทำให้ลูกจ้างลาออกจากสมาชิก
สหภาพแรงงาน เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ทำให้เกิด
แตกความสามัคคี และทำลายบรรยากาศหรือระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๙๓
Master 2 anu .indd 93 7/28/08 8:57:15 PM