Page 48 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 48
๒
บทที่
ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายบริหาร และลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ เป็นกฎหมายที่กำหนดสิทธิในการร่วม
เจรจาต่อรองตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นข้อเรียกร้อง เพื่อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง
การระงับข้อพิพาทแรงงาน การจัดตั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเพื่อแสวงหาและคุ้มครองประโยชน์
เกี่ยวกับการจ้างในรัฐวิสาหกิจ การกำหนดให้มีคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งเป็น
คณะกรรมการไตรภาคีที่จะกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ การกำหนดให้มี
คณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งซึ่งเป็นคณะกรรมการทวิภาคี เพื่อการปรึกษาหารือ
ให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างฝ่ายบริหารกับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ
๒.๗ พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.๒๕๓๓
กำหนดให้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เพื่อให้ความคุ้มครองแก่
ลูกจ้างที่ประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตายที่มิใช่เป็นผลสืบเนื่องจากการทำงาน รวมทั้งกรณี
คลอดบุตร กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพ และกรณีว่างงาน โดยอัตราเงินสมทบกรณีประสบ
อันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และคลอดบุตร ให้จัดเก็บในอัตรารวม ๓ ฝ่ายไม่เกินร้อยละ ๔.๕
ของค่าจ้าง สำหรับกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ให้จัดเก็บในอัตรารวม ๓ ฝ่าย ไม่เกินร้อยละ
๙ ของค่าจ้าง และกรณีว่างงาน ให้จัดเก็บในอัตรารวม ๓ ฝ่าย ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ของค่าจ้าง ทั้งนี้
ลูกจ้างที่เข้าข่ายจะได้รับบริการทางการแพทย์และเงินทดแทนการขาดรายได้ รวมถึงค่าคลอดบุตร ค่าทำ
ศพเงินสงเคราะห์ทายาทในกรณีตาย ค่าสงเคราะห์บุตรและเงินบำเหน็จบำนาญ กรณีชราภาพ
๒.๘ พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.๒๕๓๗
กำหนดให้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างปีละหนึ่งครั้งในอัตราร้อยละ ๐.๒-๑.๐
ของค่าจ้าง ตามลักษณะความเสี่ยงภัยของประเภทกิจการนั้นๆ เงินสมทบที่จัดเก็บได้นี้ให้นำไปจ่าย
เป็นเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างที่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย สูญเสียอวัยวะ สูญเสียสมรรถภาพของ
ร่างกาย ตายหรือสูญหายอันเนื่องมาจากการทำงานให้กับนายจ้าง โดยลูกจ้างจะได้รับเงินทดแทน
เป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนการขาดรายได้ ค่าทำศพ หรือค่าฟื้นฟูสรรถภาพในการทำงาน
ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับของการประสบอันตรายนั้นๆ
นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายด้านแรงงานในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นๆ เช่น
๒.๙. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
เป็นกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของประชาชน
เนื่องจากปัจจุบันคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรได้ทวีจำนวนมากขึ้นตามลำดับ พระราชบัญญัติ
คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๔๙๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗
ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว มีบทบัญญัติต่างๆ ที่ไม่ทันสมัยและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์
ในปัจจุบัน สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเสียใหม่
กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายสำคัญในการควบคุมคนต่างด้าวทุกประเภท โดยมีอำนาจหน้าที่
ในการตรวจบุคคล พาหนะที่เข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร การอนุญาตให้อยู่ใน
ราชอาณาจักรของคนต่างด้าวทั้งที่ถูกกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมาย ทั้งที่เข้ามาในราชอาณาจักร
เป็นการชั่วคราว หรือมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร เป็นต้น
๔๘ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน
Master 2 anu .indd 48 7/28/08 8:46:48 PM