Page 315 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 315

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
                    กรณีเรือประมงประภาสนาวี ๑-๖ เป็นตัวอย่างหนึ่งในปัญหาเชิงนโยบายของรัฐบาลในการรองรับ
              ตลาดแรงงานภายในประเทศทั้งระบบ และโดยเฉพาะต่อกิจการประมงทะเลและธุรกิจที่ต่อเนื่องจากกิจการ
              ประมงทะเล เนื่องจากเป็นกิจการที่มีความต้องการแรงงานมาก ในขณะที่แรงงานภายในประเทศไม่ทำงานใน
              กิจการดังกล่าว รัฐบาลจึงต้องเปิดรับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ พม่า ลาวและกัมพูชา
                    สถานการณ์ปัญหาที่มีลักษณะร่วมกันคือ แรงงานส่วนใหญ่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่ได้รับ
              การคุ้มครองแรงงาน ทำงานที่เสี่ยงอันตรายและขาดการเตรียมความพร้อมก่อนลงเรือ ไม่มีหลักประกันด้าน
              สุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน และเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย

              คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานจึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและกฎหมาย ต่อรัฐบาล ดังนี้
              	     ๑. ให้ยกเลิก กฎกระทรวงฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครอง
              แรงงาน  พ.ศ.  ๒๕๔๑  ที่ไม่คุ้มครองกิจการประมงทะเล  ที่มีลูกจ้างน้อยกว่า  ๒๐  คน  และเรือประมงที่
              ไปดำเนินกิจการนอกน่านน้ำไทยเป็นเวลาตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป และให้กำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้
              การคุ้มครอง ลูกจ้างในกิจการประมงทะเลทั้งในและนอกน่านน้ำให้ได้รับการคุ้มครองด้านสิทธิแรงงาน และ
              ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของลักษณะกิจการประมงทะเล
              	     ๒. ให้รัฐบาลทบทวนกฎหมายและมาตรการบริหารของรัฐเกี่ยวกับการประกอบกิจการประมง
              ทะเลทั้งในน่านน้ำและนอกน่านน้ำ	ในเรื่องการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกิจการประมงทะเล  ระบบข้อมูล
              เกี่ยวกับลูกเรือ การบริหารและการบังคับใช้กฎหมายด้านแรงงาน การจัดระบบการเข้าออกของเรือประมง
              ที่ไปทำงานนอกน่านน้ำ เช่น เพิ่มโทษกรณีทุจริต หรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ.๒๔๘๑
                    ทั้งนี้ ในกิจการประมงทะเลนอกน่านน้ำ ให้รัฐบาลผ่อนผันเวลาการจ้างแรงงานให้สอดคล้องกับสภาพ
              งานในกิจการประมงทะเล
              	     ๓. ปรับปรุงระบบการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับกิจการประมงทะเลให้เกิดประสิทธิภาพและมี
              ความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
                    - การออกหนังสือคนประจำเรือ(Seaman Book)เพื่อให้ทราบว่าลูกเรือเป็นใครและป้องกันมิให้มีการ
              ทุจริตเกี่ยวกับหนังสือคนประจำเรือ
                    - การจัดทำเอกสารรายการประทับตราหนังสือเรือเข้าออกนอกน่านน้ำไทย เพื่อให้ทราบข้อมูลการนำ
              เรือเข้าและออกจากน่านน้ำไทยเมื่อใด เพื่อบันทึกการเข้าและออกของเรือ
                    - การคุ้มครองค่าจ้าง สวัสดิการแรงงาน และผลตอบแทนพิเศษ ตลอดจนการคุ้มครองเรื่องสุขภาพ
              และความปลอดภัยในการทำงานแก่ลูกเรือให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานของไทย และมาตรฐานแรงงาน
              ระหว่างประเทศที่รัฐบาลไทยให้สัตยาบันแล้ว
              	     ๔.  รัฐบาลควรมีมาตรการในการคุ้มครองหรือเยียวยาแก่ลูกเรือหรือทายาทของลูกเรือ  ใน
              กรณีที่เกิดภัยพิบัติหรือเหตุเจ็บป่วยล้มตายดังที่ปรากฏตามคำร้องนี้ และไม่ว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน
              หรือไม่ก็ตาม เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเกิดการประสานเชื่อมโยงในการทำงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหาใน
              ลักษณะบูรณาการและอำนวยความยุติธรรมแก่ลูกเรือ  ทายาทของลูกเรือหรือครอบครัวและประชาชน
              โดยไม่แบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติ  โดยไม่ผลักภาระให้แรงงานข้ามชาติหรือประชาชน  ต้องไปใช้สิทธิตาม
              กระบวนการยุติธรรมเสียก่อน
                    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ
              ภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพ โดยให้ดำเนินการเร่งด่วนที่จังหวัด
              สมุทรสาคร และขยายไปสู่จังหวัดชายทะเลอื่นๆ



                                                                    และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๓๑๕





     Master 2 anu .indd   315                                                                     7/28/08   9:23:37 PM
   310   311   312   313   314   315   316   317   318   319   320