Page 312 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 312

ข้อเท็จจริงว่า  ลูกเรือถูกละเมิดทั้งในเรื่องค่าจ้างและการคุ้มครองแรงงาน  หลักประกันสุขภาพและความ
              ปลอดภัยในการทำงาน และสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของลูกเรือ
                    ทั้งนี้  สืบเนื่องมาจากเจ้าของเรือประภาสนาวีสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน  และระหว่างการรอสัญญา
              สัมปทาน เรือไม่สามารถจอดเทียบท่าที่ประเทศอินโดนีเซียได้ จึงลอยลำนอกน่านน้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องรอ
              การประสานงานจัดส่งน้ำมันสำหรับเดินทางกลับ และมิได้จัดเรือนำอาหาร ผักและเสบียงไปส่งให้ลูกเรือ
              ทำให้ลูกเรือได้รับอาหารไม่ครบหมู่ตามความต้องการของร่างกาย จนเมื่อไม่สามารถต่อสัมปทานได้แน่นอน
              แล้วจึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย ประกอบกับความหละหลวมในเรื่องการจัดทำข้อมูลและเอกสาร
              ประจำเรือ ซึ่งลูกเรือส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย น่าเชื่อว่ามีการปลอมแปลงหนังสือคน
              ประจำเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการ ฯ ว่า กรณีนี้น่าเชื่อ
              ว่าเป็นการสวมสิทธิ เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาครไม่มีการออกหนังสือคนประจำเรือให้แก่แรงงานข้ามชาติ
              รายใดเลย จึงเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจตามคำร้องนี้
                    จากการตรวจร่างกายลูกเรือของแพทย์โรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสาคร ให้ความเห็นว่า ขาดวิตามิน
              บี ๑ ขั้นรุนแรง ทำให้ลูกเรือไม่มีแรง ร่างกายโทรม ตาเหลือง ขาบวม เมื่อเอานิ้วกดลงตามกล้ามเนื้อบริเวณ
              ขาจะเป็นรอยบุ๋มไม่คืนรูป การทรงตัวไม่เป็นปกติ และอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต จำนวน ๓๙ คน และ
              เจ็บป่วยจำนวนมาก
                    ลูกเรือที่เสียชีวิต ๒ คนแรก เพื่อนๆ ได้นำเข้าไปฝังไว้บนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ลูกเรือที่
              เจ็บป่วยได้ทยอยเสียชีวิต และได้นำศพทิ้งลงไปในทะเล เนื่องจากไม่สามารถนำศพไว้บนเรือได้ เมื่อเรือได้
              เดินทางเข้ามาประเทศไทย ปรากฏว่านายจ้างได้รับผิดชอบจ่ายค่าชดเชย ค่าทำศพให้ลูกจ้างบางคน แต่ไม่
              รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายด้านการรักษาผู้เจ็บป่วย ไม่จ่ายค่าจ้าง หรือค้างการจ่ายค่าจ้างที่เหลือ ไม่ช่วยเหลือ
              ค่าทำศพแก่ลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
                    ๒. ลูกเรือหรือลูกจ้างจะต้องได้รับการคุ้มครองแรงงานตามกฎหมายแรงงาน ทั้งในเรื่องค่าจ้างและ
              สวัสดิการต่าง ๆ กรณีเจ็บป่วย ประสบอันตรายหรือเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ซึ่งต้องได้รับการดูแลจาก
              นายจ้างในเรื่องการรักษาพยาบาล ค่าทดแทนการขาดรายได้ และค่าทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเสีย
              ชีวิต ตลอดจนค่าจัดการศพ นายจ้างต้องรับผิดชอบจ่ายเงินทดแทนให้ทายาท หรือลูกจ้างนั้น ลูกเรือประมง
              ประภาสนาวี ทั้งชาวไทยและชาวพม่านั้น ถือว่าเป็นลูกจ้างที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน
                    แต่เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ.๒๕๔๑) ไม่บังคับใช้
              กับกิจการประมงทะเล ที่มีลูกจ้างน้อยกว่า ๒๐ คน และ เรือประมงที่ไปดำเนินกิจการนอกน่านน้ำไทยเป็น
              เวลาตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปทำให้ลูกเรือหรือทายาทไม่มีสิทธิยื่นคำร้องเพื่อเรียกร้องสิทธิตามพระราชบัญญัติ
              คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้ แม้ว่าลูกเรือหรือทายาทได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน เจ้าหน้าที่ก็
              มีคำสั่งไม่รับคำร้อง จนลูกเรือต้องนำคดีไปสู่ศาลแรงงาน ทำให้เป็นภาระมากยิ่งขึ้น
                    ๓.  เกี่ยวกับกิจการประมงทะเลนอกน่านน้ำ  มีความเกี่ยวพันกับกฎหมายหลายฉบับ  กล่าวคือ
              พระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ. ๒๔๘๑ และแก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ความปลอดภัยของ
              เรือ หนังสือคนประจำเรือ และใบอนุญาตการควบคุมเรือ เป็นต้น พระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ.๒๔๘๑ เกี่ยว
              กับการทำสัญญาลูกเรือ  อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจและฝ่ายปกครองในการกักเรือหากไม่ปฏิบัติตาม
              กฎหมาย พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ เกี่ยวกับการตรวจสอบคนประจำเรือและการเข้าและ
              ออกของเรือ และพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๒๑ และแก้ไขเพิ่มเติม








        ๓๑๒  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   312                                                                     7/28/08   9:23:36 PM
   307   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317