Page 234 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 234
บทที่
๑๐
๓. ข้อเสนอแนะด้านนโยบายและกฎหมาย
จำแนกพิจารณาออกเป็นด้านต่าง ๆ ตามมิติสิทธิแรงงาน ดังนี้
๓.๑ ด้านการไม่เลือกปฏิบัติ
ในส่วนนี้ จะพิจารณาจากกลุ่มคนทำงานทุกกลุ่มเป้าหมาย และทุกมิติตามกรอบการศึกษา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับคนทำงานภาครัฐ คนทำงานในภาคนอกระบบ กลุ่มแรงงานข้ามชาติ และ
การจ้างงานโดยไม่เป็นธรรม ดังจะได้กล่าวในรายละเอียด ดังนี้
๓.๑.๑ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๓.๑.๑ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย มีสาระสำคัญ ดังนี้
(๑) ให้การคุ้มครองแรงงานให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในระบบและนอกระบบ ทั้งลูกจ้างหรือ(๑) ให้การคุ้มครองแรงงานให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในระบบและนอกระบบ ทั้งลูกจ้างหรือ
คนทำงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สิทธิและเสรีภาพ ที่เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต และความเสมอภาคของคนทำงานในทุกสาขาอาชีพ
(๒) การจัดตั้งองค์การอิสระด้านการคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงานและ
ให้ครอบคลุมคนทำงานทุกสาขาอาชีพ โดยไม่แบ่งแยกหรือกีดกันเนื่องจากความแตกต่างทางเพศ
การนับถือศาสนา เชื้อชาติและสัญชาติ เป็นต้น
(๓) ป้องกันมิให้มีการกีดกันแรงงานที่เป็นผู้พิการ หรือเป็นผู้ป่วย เอชไอวี (เอดส์) ที่ไม่มีอาการ
แทรกซ้อนและยังสามารถทำงานได้ และป้องกันมิให้มีการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาเอชไอวี (เอดส์) ทั้งใน
ระยะก่อนการสมัครงาน ระหว่างที่รับเข้าทำงานแล้ว โดยมิได้รับความยินยอมจากคนทำงาน
(๔) รัฐบาลต้องทบทวนนโยบายการจ้างแรงงานข้ามชาติ (แรงงานต่างด้าว) ให้มีความ
เหมาะสมสอดคล้องกับความจำเป็นที่จะต้องใช้แรงงานข้ามชาติโดยมิให้กระทบต่อสิทธิการมีงานทำ
ของคนไทย และสถานการณ์ด้านแรงงานของประเทศไทย ทั้งจะต้องดำเนินนโยบายเพื่อให้มีการ
คุ้มครองแรงงานข้ามชาติให้ได้รับสิทธิตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้ และรับรองให้แรงงาน
ข้ามชาติมีสิทธิอยู่ในประเทศไทยเพื่อใช้สิทธิตามกฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรม
หากไม่เร่งแก้ไข แรงงานไทยทั้งในระบบและนอกระบบจะได้รับผลกระทบและไม่มีความ
มั่นคงในอาชีพ จนอาจทำให้เกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม
(๕) ให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานเพื่อให้ลูกจ้างในระบบเหมาช่วงหรือเหมา
ค่าแรงงานในงานที่เป็นกระบวนการผลิตของสถานประกอบการได้รับสิทธิและสภาพการจ้างจากสถาน
ประกอบการโดยเท่าเทียมหรือเป็นธรรม โดยเฉพาะจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ควบคู่กัน
๓.๑.๒ ข้อเสนอการแก้ไขกฎหมาย มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๓.๑.๒ ข้อเสนอการแก้ไขกฎหมาย มีสาระสำคัญ ดังนี้
(๑) ให้เร่งพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ
สภาพแวดล้อมในการทำงาน (ฉบับบูรณาการ ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคประชาชนได้ร่วมกันจัดทำตั้งแต่ปี
๒๕๔๔) ซึ่งมีหลักการสำคัญคือ เป็นองค์การมหาชน ทำงานครบวงจรทั้งในด้านป้องกัน ส่งเสริม
๒๓๔ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน
Master 2 anu .indd 234 7/28/08 9:21:51 PM