Page 229 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 229
บทสรุป
และข้อเสนอแนะ
มาตรฐานแรงงาน ขาดการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย มีแนวคิดว่าการร้องเรียนหรือการเรียกร้อง
สิทธิตามกฎหมายเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และทำลายระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งเป็น
ความคิดที่ไม่ถูกต้อง
กลุ่มคนทำงานภาครัฐ คนทำงานในกลุ่มนี้มีทั้งข้าราชการ พนักงานในองค์การของรัฐ
พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวตามงบประมาณ และลูกจ้างชั่วคราวตามงบรายได้
กลุ่มคนทำงานในหน่วยงานราชการถูกละเมิดมากที่สุดเนื่องจากต้องทำงานภายใต้การจ้างงาน
ที่ไม่เป็นธรรม เช่น สัญญาจ้างระยะสั้น หรือสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาคราวละไม่เกิน ๑ ปี
ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นที่แรงงานในภาคเอกชนได้รับ บางเรื่องต่ำกว่ามาตรฐานแรงงาน ไม่มีสิทธิ
จัดตั้งสหภาพแรงงาน หรือรวมตัวเพื่อเจรจาต่อรอง ไม่มีความมั่นคงในการทำงาน ตลอดจนมีข้อจำกัด
ในการเรียกร้องหรือทวงถามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพราะอาจไม่ได้รับการต่ออายุสัญญาจ้าง
ส่วนคนทำงานในรัฐวิสาหกิจ ถูกแบ่งแยกจากกลุ่มแรงงานในภาคเอกชนโดยกฎหมาย มีการ
ละเมิดโดยนโยบายของรัฐคือการแปรรูป การแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ หรือการยุบเลิกรัฐวิสาหกิจ การ
แปลงรัฐวิสาหกิจเป็นองค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงไม่อยู่ใน
บังคับใช้ของกฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจ และมีการนำระบบการจ้างเหมามาใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้
คนทำงานไม่ได้รับสภาพการจ้างที่เป็นธรรมและไม่มีความมั่นคงในการทำงาน รวมทั้งลูกจ้างชั่วคราว
ด้วยเช่นกัน
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีการยุบเลิก รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเฉพาะที่เป็นสิทธิตามกฎหมาย
แต่หาได้คำนึงถึงความเดือดร้อนตามความเป็นจริงแต่อย่างใดไม่ มีการเลือกปฏิบัติในการจัดสรร
งบประมาณให้แก่รัฐวิสาหกิจ กระทบต่อมาตรฐานสภาพการจ้างและสวัสดิการของพนักงาน
แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายโดยพนักงานรัฐวิสาหกิจไม่มีส่วนร่วม
กลุ่มคนทำงานนอกระบบ
แรงงานในกลุ่มนี้เป็นผลิตผลของการปรับตัวของนายจ้าง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการจ้าง
งานประกอบกับความต้องการลดต้นทุนการผลิตเพื่อการแข่งขันทางการค้าและการรักษากำไรสูงสุด
จึงเกิดแนวโน้มของการจ้างงานในลักษณะแอบแฝงหรือซ่อนเร้นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อ
หลบเลี่ยงความผูกพันหรือความรับผิดตามที่กฎหมายด้านแรงงานกำหนดไว้ เช่น อาศัยสัญญาชนิดต่างๆ
ที่มิใช่สัญญาจ้างแรงงาน ทำให้แรงงานเหล่านี้ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายด้านแรงงานทั้งหมด
แรงงานกลุ่มนี้นับวันขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ประมาณกันว่ามีจำนวน ๒๓ ล้านคนโดยรวมผู้ที่
ประกอบอาชีพอิสระที่มิได้เป็นลูกจ้างและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทางเศรษฐกิจด้วย กลุ่มแรงงาน
นอกระบบที่มีบทบาทสำคัญแต่ยังถูกเอาเปรียบอย่างมาก เช่น กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ครัวเรือน
ผู้ผลิตเพื่อขาย กลุ่มเกษตรกรในระบบเกษตรพันธะสัญญา เป็นต้น
การขับเคลื่อนของรัฐบาลในนโยบายและกฎหมายเพื่อคุ้มครองแรงงานนอกระบบเป็นไปโดย
ล่าช้ามาก ขณะนี้มีเพียงกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานที่รับไปทำที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๔๗
แต่ยังไม่ครอบคลุมคนทำงานทั้งหมดและยังไม่มีผลคุ้มครองในทางปฏิบัติ
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๒๒๙
Master 2 anu .indd 229 7/28/08 9:21:38 PM