Page 216 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 216

๙
        บทที่






              เป็นเรื่องที่มีการฟองร้องเป็นคดีอยู่ในศาล  หรือที่ศาลพิพากษา  หรือมีคำสั่งเด็ดขาดแล้ว
              ให้คณะกรรมการมีอำนาจตรวจสอบและเสนอมาตรการแก้ไขตามพระราชบัญญัตินี้”
                    มาตรานี้ก่อให้เกิดความพยายามตีความของนายจ้างบางส่วนว่า เมื่อเรื่องไปที่ศาลแล้ว ไม่ว่า
              ประเด็นใด จะทำให้ กสม.ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ แต่ต่อมาทุกฝ่ายก็เริ่มเข้าใจว่าจำกัดเฉพาะที่เป็น
              ประเด็นเดียวกับการพิจารณาของศาลเท่านั้น แม้เป็นประเด็นเดียวกัน กสม. ก็ยังสามารถเสนอแนะ
              เชิงนโยบายและกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในมิติสิทธิมนุษยชนได้ เพราะประเด็นการตรวจสอบ
              ของ กสม.โดยคณะอนุกรรมการ ฯ มีขอบเขตและมิติด้านสิทธิแรงงานกว้างกว่าการพิจารณาคดีของศาล

              	     ๔) บทบาทและความตระหนักของหน่วยราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ บนพื้นฐานความเข้าใจ

              สิทธิมนุษยชนมีความจำเป็นต่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงาน
                    มีการตรวจสอบหลายกรณี  พบว่า  ถ้าเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน  หรือ
              หน่วยงานของรัฐในจุดเริ่มต้นที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ช่วยซักถามข้อเท็จจริงให้ละเอียด มีหลักคิดเรื่อง
              สิทธิมนุษยชนที่ชัดเจน เข้าใจความเดือดร้อนของคนยากจน อาจช่วยให้ความเดือดร้อนของลูกจ้าง
              ได้รับการแก้ไขได้ดีกว่าที่เป็นอยู่  ไม่ยืดเยื้อไปจนถึงการต้องใช้สิทธิทางศาลที่ลูกจ้างลำบากและ
              เสียเปรียบ  ซึ่งทั้งคนทำงานภาคเอกชน  แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศและแรงงานข้ามชาติ
              ล้วนตกอยู่ในสภาพเดียวกัน

                    ในกรณีหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หากมีกลไกการตรวจสอบเรื่องร้องทุกข์ และขั้นตอน
              การอุทธรณ์ที่รวดเร็วและเป็นธรรม  จะช่วยให้คนทำงานภาครัฐได้รับการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วขึ้น
              หลายกรณีลูกจ้างภาครัฐจะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือเลิกจ้างไปก่อนมีผลการสอบสวน หรือ
              การอุทธรณ์ ซึ่งใช้เวลายาวนาน หรือบางกรณีมีระเบียบที่ไม่เป็นธรรมด้วย
                    คณะอนุกรรมการฯ ยังพบในบางกรณีที่เจ้าหน้าที่แนะนำไม่ชัดเจน ทำให้เสียเวลา หรือไกล่เกลี่ย
              ให้ยอมรับเงินชดเชยน้อยกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนด หรือแนะนำให้รับเงินจำนวนเล็กน้อยจาก
              นายหน้าที่หลอกไปทำงานต่างประเทศโดยบอกว่าสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ อ้างข้อจำกัดของระเบียบต่าง ๆ
              ว่าทำไม่ได้ ทำให้การปกป้องคุ้มครองคนทำงานขั้นต้นยังไม่มีกลไกและแนวทางปฏิบัติที่ลูกจ้างมั่นใจ
              และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

              	     ยังมีข้อสังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ไปเป็น
              ที่ปรึกษาของนายจ้างธุรกิจขนาดใหญ่ในจังหวัดที่ตนเองเคยทำงานมาก่อน ใช้ความรู้และประสบการณ์
              ไปบั่นทอนสหภาพแรงงาน ซึ่งในอนาคตอาจต้องมีข้อกำหนดด้านจริยธรรมของข้าราชการ
                    มีหลายกรณีที่นายจ้างทำลายสหภาพแรงงานด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การข่มขู่ทั้งทางตรงและ
              ทางอ้อม การแจ้งความคดีอาญาข้อหาลักถุงขยะ ลักถังใส่ของไปใส่น้ำอาบในหอพัก หรือขาย
              หวยใต้ดิน ทำให้ลูกจ้างที่เป็นแกนนำสหภาพแรงงานต้องยุ่งยากในการประกันตัวต่อสู้คดี ในขณะที่
              นายจ้างใช้โอกาสเลิกจ้างไปก่อนแล้ว บางกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ดุลพินิจปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่

              เรียกเงินประกัน หรือสั่งไม่ฟ้องเพราะลูกจ้างขาดเจตนา แต่ก็มีบางกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ดุลพินิจ
              ตามระบบกล่าวหา คือรับแจ้งความ ควบคุมตัวดำเนินคดี เรียกหลักประกัน สั่งฟ้องคดี และให้ลูกจ้าง
              ไปต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในศาลยุติธรรม


        ๒๑๖  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   216                                                                     7/28/08   9:20:16 PM
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221