Page 106 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 106

๔
        บทที่





                                                           หลายสิบปีว่ากำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการ

                                                           ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ถึงเวลาหรือ
                                                           ยังที่กระทรวงแรงงานจะส่งเสริมให้องค์กร
                                                           แรงงานหรือเครือข่ายภาคประชาชนมีส่วน
                                                           ร่วมในการตรวจและคุ้มครองแรงงาน
                                                           
     (๑.๒) ในประเด็นการเลิกจ้างลูกจ้างมี
                                                           ครรภ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  พนักงาน
                                                           ตรวจแรงงานมีอำนาจสั่งให้นายจ้างรับลูกจ้าง
                                                           หญิงมีครรภ์กลับเข้าทำงานได้หรือไม่ ปรากฏ
                                                           ว่าในทางปฏิบัติพนักงานตรวจแรงงานหรือเจ้า

                                                           หน้าที่ด้านแรงงาน มักแนะนำให้ลูกจ้างมีครรภ์
              ยื่นคำร้องตามแบบ คร.๗ ซึ่งเป็นแบบคำร้องเรียกเงิน เช่น ค่าชดเชย หรือค่าจ้าง ตามพระราชบัญญัติ
              คุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  ๒๕๔๑  ในขณะที่ลูกจ้างมิได้ต้องการค่าชดเชยแต่ต้องการกลับเข้าทำงาน
              เจ้าหน้าที่เห็นว่าจะต้องฟ้องคดีต่อศาลแรงงานเท่านั้น
              	     กลไกพนักงานตรวจแรงงานจึงไม่มีบทบาทในการคุ้มครองหรือแก้ไขปัญหาลูกจ้างมีครรภ์อย่างแท้จริง
              	     (๑.๓) ในหลายกรณี เมื่อลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานได้ร้องเรียนความไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล
              หรือกระทรวงแรงงาน ปรากฏว่า กระทรวงแรงงานมักจะชี้แจงให้ลูกจ้างไปดำเนินการตามขั้นตอนของ

              กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมด้านแรงงาน  เช่น  การร้องทุกข์ต่อพนักงานตรวจแรงงาน
              คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หรือการฟ้องคดีต่อศาลแรงงาน โดยไม่ดำเนินการในทางบริหารเพื่อ
              เป็นมาตรการเสริมในการแก้ไขปัญหา ทำให้ปัญหาด้านแรงงานกระจุกตัวอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
              เป็นหลัก แต่ไม่มีการสร้างกลไกหรือคณะกรรมการในระดับจังหวัดที่มีความพร้อม หรือการบูรณาการ
              หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนเพื่อคุ้มครองหรือแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานที่ยั่งยืน

              	     (๒) ในประเด็นความปลอดภัยในการทำงาน
                    (๒.๑) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และประกาศกระทรวงแรงงานและ
              สวัสดิการสังคม เรื่อง คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

              ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัย ฯ (ทวิภาคี) ไว้หลายประการ เช่น (๑)
              สำรวจสภาพความปลอดภัยในที่ทำงาน เดือนละ ๑ ครั้ง (๒) จัดทำรายงานและเสนอแนะมาตรการใน
              การแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องตามกฎหมาย (๓) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านความปลอดภัย (๔)
              กำหนดระเบียบและมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงาน (๕) จัดทำนโยบาย  แผนงานหรือ
              โครงการประจำปีด้านความปลอดภัย ฯ เป็นต้น
                    แต่นายจ้างหลายรายยังไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่นายจ้างมีความขัดแย้ง
              กับสหภาพแรงงาน หรือถูกร้องเรียนว่าบริหารจัดการธุรกิจโดยไม่เป็นธรรม เช่น บริษัท แฟร์ เท็กซ์ไทล์

              จำกัด บริษัท พีบี แอร์ จำกัด และบริษัท นากาตันไทย อุตสาหกรรม จำกัด (เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท
              ยานากาว่า เทคโนฟอร์จ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นต้น


        ๑๐๖  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   106                                                                     7/28/08   9:00:10 PM
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111