Page 22 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2563)
P. 22
20 วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน
กระทําการที่เปนการลวงละเมิดตอสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไดเชนเดียวกัน ยกตัวอยางเชน
21
นายจางซึ่งมีอํานาจในทางความเปนจริงทั้งในดานเศรษฐกิจและสังคมดีกวาลูกจาง ยอมมีอํานาจฝายเดียว
ในการกําหนดเงื่อนไขการจางหรือการทํางานซึ่งอาจมีผลกระทบตอสิทธิขั้นพื้นฐานของลูกจางได คําถาม
สําคัญมีอยูวา ลูกจางซึ่งเปนเอกชนจะอางบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานขึ้นยันตอ
นายจางโดยตรงไดหรือไม วาการใชอํานาจในพรมแดนกฎหมายเอกชนของนายจางกระทบสิทธิ
ขั้นพื้นฐานของตน คําถามในประการดังกลาวนี้เปนคําถามสําคัญถึง “ผลที่ควรตองเปนของสิทธิขั้นพื้นฐาน
ในระบบกฎหมาย” เลยทีเดียว ในเรื่องดังกลาวนั้นมีคําอธิบายในทางทฤษฎีอยูวา จริงอยูแมเอกชน
คนหนึ่งจะมิอาจอางสิทธิตามรัฐธรรมนูญขึ้นใชยันเอกชนอีกคนหนึ่งไดโดยตรงก็ตาม เพราะการยอมรับ
หลักดังกลาวจะกระทบแดนอิสระของปจเจกบุคคล (Private Autonomy) อยางมาก แตการถือหลักการ
ดังกลาวโดยเครงครัดมากจนเกินไป ยอมทําใหคุณคาหรือระบบแหงเหตุผลที่รัฐธรรมนูญมุงหมาย
ใหใชในการกําหนดกฎเกณฑการดํารงชีวิตอยูรวมกันในสังคมนั้นไมอาจบรรลุจุดมุงหมายไดอยาง
แทจริง ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากเปาหมายของการรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานโดยรัฐธรรมนูญเราจึงอาจสรุป
ไดวา สิทธิขั้นพื้นฐานซึ่งโดยปกติใชในการกําหนดความสัมพันธในแนวดิ่งระหวางรัฐกับเอกชนนั้น “ควร”
ที่จะมีผลเขามากําหนดความสัมพันธในแนวระนาบระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกันดวย (Horizontal
effect of constitutional rights) คําถามจึงมีอยูเพียงวา ทําอยางไรสิทธิตามรัฐธรรมนูญจึงจะสามารถ
มีผลเขามาใชบังคับในความสัมพันธระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกันได
ในทางทฤษฎีนั้นสิทธิขั้นพื้นฐานหรือสิทธิตามรัฐธรรมนูญอาจถูกนําเขามาใชในการกําหนด
นิติสัมพันธระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกันไดผานการทําหนาที่ขององคกรของรัฐ 2 องคกร ซึ่งไดแก
ศาลยุติธรรมองคกรหนึ่ง และฝายนิติบัญญัติอีกองคกรหนึ่ง ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมเปนองคกรของรัฐองคกร
แรกที่อาจนําหลักการของสิทธิขั้นพื้นฐานหรือสิทธิตามรัฐธรรมนูญเขามาใชในการกําหนดนิติสัมพันธ
ระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกัน ทั้งนี้ เพราะศาลยุติธรรมเปนศาลที่ทําหนาที่ในการชี้ขาดขอพิพาท
ระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกันที่เกิดขึ้นในพรมแดนกฎหมายเอกชน โดยวิธีการที่ศาลยุติธรรมจะนํา
22
สิทธิขั้นพื้นฐานเขามาปรับใชกําหนดนิติสัมพันธในพรมแดนกฎหมายเอกชน ไดแก การใชการตีความ
กฎหมายเอกชนที่มีลักษณะเปนหลักการทั่วไปหรือเปนบทบัญญัติแหงกฎหมายที่มีความหมาย
ไมเฉพาะเจาะจง (Unbestimmte Rechtsbegriffe) โดยเฉพาะอยางยิ่งหลักความสงบเรียบรอยและ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน บทบัญญัติในลักษณะดังกลาวเปดชองใหศาลยุติธรรมไดตีความถอยคําใน
23
บทบัญญัตินั้นเพื่อเชื่อมโยงคุณคาในเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานเขามากําหนดนิติสัมพันธระหวางเอกชน
21 จาก สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (น. 54), โดย วรพจน วิศรุตพิชญ, 2543,
กรุงเทพฯ: วิญูชน. เปรียบเทียบ ทฤษฎีสิทธิขั้นพื้นฐาน. เลมเดิม. (น. 167).
22 ในขณะที่ศาลในทางกฎหมายมหาชนอยางศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองยอมมีหนาที่ในการชี้ขาดขอพิพาทระหวางองคกร
ของรัฐกับเอกชนที่เกิดขึ้นในพรมแดนกฎหมายมหาชน และเปนหนาที่ตามปกติของศาลทั้งสองอยูแลวที่จะตองนําหลักในเรื่องสิทธิ
ขั้นพื้นฐานหรือสิทธิตามรัฐธรรมนูญเขามาใชในการชี้ขาดขอพิพาทที่เกิดขึ้น.
23 ตามระบบกฎหมายไทยนั้น หลักความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของประชาชนไดรับการบัญญัติเอาไวเปน
ลายลักษณอักษรในมาตรา 150

