Page 18 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2563)
P. 18

16          วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน


            ที่เปนอิสระเสรี ดังนั้น เมื่อมนุษยตางแสวงหาสภาวะที่เปนอิสระเสรีจากการถูกจํากัดโดยเจตจํานงของ

            บุคคลอื่น “เสรีภาพ” จึงถูกถือวาเปนเรื่องของความมีเหตุมีผลในการใชชีวิตอยูรวมกันของ
            คนในสังคม  ทั้งนี้ มนุษยประกอบไปดวยลักษณะ 2 ดานหรือ 2 ขั้วอยูในตัวเอง ซึ่งไดแก ดานที่เปน
                      6
            ความปรารถนาหรือความอยาก (desire) และดานที่มีเหตุมีผล (reason)   กลาวอีกนัยหนึ่ง
                                                                             7
            จิตวิญญาณของมนุษยประกอบไปดวยทั้งสวนที่มีเหตุมีผลและสวนที่ไมมีเหตุมีผล  ทั้งนี้ ความมีเหตุ
                                                                              8
            มีผลในตัวมนุษยจะทําใหมนุษยตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปตามทัศนคติและความเขาใจตอโลก

            โดยเฉพาะอยางยิ่งจะตัดสินใจไปตามหลักแหงศีลธรรมอันดีงาม และความมีเหตุมีผลนี้เองที่ทําให
            มนุษยสามารถเอาชนะความปรารถนาและความอยากในตัวเองได หนาที่ของรัฐก็คือ จะตองรับรอง
            และคุมครองใหมนุษยทั้งหลายในสังคมมีความสามารถในการใชเหตุและผล  และดําเนินชีวิตอยู

            รวมกันไปตามหลักของเหตุและผลดังกลาวนั้น Kant กลาวตอไปวา มนุษยมีอยูดวยกัน 2 ประเภท
            ไดแก สัตวมนุษย (Tiermenschen) และมนุษยที่มีเหตุมีผล (Vernunftmenschen) ซึ่งมีลักษณะ
            ตรงขามกันโดยสิ้นเชิง   สําหรับสัตวมนุษย (Tiermenschen) นั้น ภาวการณตัดสินใจจะเปนไปตาม
                              9
            สัญชาตญาณของสัตว  การตัดสินใจในเรื่องตาง  ๆ  จึงเปนไปตามความปรารถนาและความตองการที่
            ไมมีขอบเขตจํากัด แตสําหรับมนุษยที่มีเหตุมีผล (Vernunftmenschen) จะใชเหตุผลเปนเครื่องกํากับ

            การตัดสินใจกระทําการตาง ๆ ของตนเอง โดยเหตุและผลเชนวานี้จะทําหนาที่ดั่งเปน “กฎหมายทั่วไป”
            (Allgemeine Gesetze) ที่ควบคุมการตัดสินใจในเรื่องตาง ๆ ของมนุษย คําถามสําคัญมีอยูวา ในภาคใด
            ของจิตใจหรือจิตวิญญาณของมนุษยที่มนุษยอาจมีเสรีภาพไดอยางแทจริง ในเรื่องดังกลาว Kant ให

            คําตอบวา ในภาวะที่มนุษยตกอยูภายใตความอยากมีอยากไดของสัญชาตญาณสัตวนั้น มนุษยยอมไมมี
            เสรีภาพ กลาวคือ ไมมีเสรีภาพจากความปรารถนาหรือความอยากของตนเอง แตสําหรับมนุษยผูมีเหตุ
            มีผลนั้น ยอมไมปลอยใหตนเองตกอยูภายใตอารมณความรูสึกปรารถนาอันไมมีที่สิ้นสุด และยอมตนอยู
            ภายใต “ระบบแหงเหตุผล” หรือ “กฎหมายทั่วไป” ดังที่กลาวไปแลว และในภาวะเชนนี้เองที่มนุษย
            กลับมีเสรีภาพที่แทจริง  คําอธิบายวามนุษยมีเสรีภาพภายใตระบบแหงเหตุผลหรือหลักกฎหมาย
                                10
            ทั่วไปนี้เองที่ถูกพัฒนามาเปนหลักเรื่อง “เสรีภาพภายใตกฎหมาย” ในความหมายที่ใชอยูในปจจุบัน
            และคําวาเสรีภาพภายใตกฎหมายนี้เองที่ชี้ใหเห็นถึงระบบความสัมพันธระหวางรัฐกับปจเจกบุคคล
            ทั้งหลายไดอยางชัดเจนที่สุด




                   6  Ibid.
                   7  From Über Freiheit, Moral und Recht (p. 15), by Schapp, Jan, 1995, JZ 50.
                   8  จาก ประวัติศาสตรความคิด นิติปรัชญา (น. 85), โดย วรเจตน ภาคีรัตน, 2561, กรุงเทพฯ: พิมพครั้งที่ 1.
                   9  จาก ทฤษฎีสิทธิขั้นพื้นฐาน (น. 262), โดย ตอพงศ กิตติยานุพงศ, 2562, กรุงเทพฯ: วิญูชน, พิมพครั้งที่ 2.
                   10  From Über Freiheit, Moral und Recht. Loc.cit., “Kant und Problem der Zurechenbarkeit,” by Bojanowski,
            Jochen, Zeitschrift für philosophische Forschung, 61(2), p. 207.
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23