Page 21 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2563)
P. 21
ปที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม – เมษายน 2563) 19
ไดกระทําไปโดยเปนไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกําหนดเอาไวเทานั้น ดังนั้น โดยพื้นฐานแลวรัฐธรรมนูญยอม
19
มุงหมายใหสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันองคกรของรัฐทั้งหลายไมวาจะใชอํานาจในลักษณะ
ใดก็ตาม ใหตองเคารพตอสิทธิขั้นพื้นฐานและละเวนจากการใชอํานาจเขาไปกระทบสิทธิเสรีภาพของเอกชน
ทั้งหลาย ดังนั้น เอกชนทั้งหลายจึงมีสิทธิเรียกรองโดยตรงตอองคกรของรัฐใหงดเวนจากการใชอํานาจ
หรือการกระทําทั้งหลายที่สงผลกระทบตอสิทธิขั้นพื้นฐานของตน สิทธิเรียกรองของเอกชนในลักษณะ
ดังกลาวเรียกในทางตําราวา “สิทธิปองกัน” (Defensive Right; Abwehrrecht) 20
แมวาโดยพื้นฐานแลว รัฐธรรมนูญมีความมุงหมายใหสิทธิตามรัฐธรรมนูญผูกพันตอองคกร
ของรัฐทั้งหลายไมวาจะเปนฝายนิติบัญญัติ ฝายบริหาร หรือฝายตุลาการ และไมไดผูกพันโดยตรงให
เอกชนทั้งหลายตองใหความเคารพตอสิทธิขั้นพื้นฐานของเอกชนดวยกัน อยางไรก็ตาม เปนที่ทราบ
กันดีวาในปจจุบันนั้นไมเพียงแตองคกรของรัฐตาง ๆ เทานั้นที่อาจใชอํานาจยํ่ายีสิทธิและเสรีภาพของ
เอกชนไดตามอําเภอใจ แตเอกชนฝายใดฝายหนึ่งที่อยูในฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่เหนือกวาอาจ
19 ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญอาจรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานในระดับที่แตกตางกันออกไป โดยการกําหนดเงื่อนไขในการตรากฎหมายจํากัด
สิทธิขั้นพื้นฐานใหมีความยากงายแตกตางกันออกไป ยกตัวอยางเชน รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ไดรับรองสิทธิ
ขั้นพื้นฐานประเภทตาง ๆ แตกตางกันออก ไปดังตอไปนี้
1) สิทธิขั้นพื้นฐานประเภทที่รัฐอาจตรากฎหมายกําจัดสิทธิไดโดยที่รัฐธรรมนูญไมไดกําหนดเงื่อนไขพิเศษในการตรากฎหมาย
จํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานนั้น โดยในกรณีดังกลาวแมรัฐธรรมนูญจะมุงคุมครองสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นเปนหลัก แตฝายนิติบัญญัติก็อาจตรา
กฎหมายจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นไดตามที่ฝายนิติบัญญัติเห็นสมควร ยกตัวอยางเชน มาตรา 37 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแหง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีสิทธิในทรัพยสินและการสืบมรดก” และวรรคสอง บัญญัติวา “ขอบเขตแหงสิทธิ
และการจํากัดสิทธิเชนวานี้ ใหเปนไปตามที่กฎหมายบัญญัติ”
2) สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐอาจตรากฎหมายจํากัดสิทธิไดก็แตโดยการปฏิบัติตามเงื่อนไขพิเศษที่รัฐธรรมนูญกําหนดไว
เชน การกําหนดวัตถุประสงคอยางใดอยางหนึ่ง เพื่อเปนเงื่อนไขในการตรากฎหมายนั้น ยกตัวอยางเชน การที่มาตรา 40 วรรคหนึ่ง ของ
รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ” และวรรคสอง ของ
มาตราเดียวกัน บัญญัติวา “การจํากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทําไมได เวนแตโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมายที่ตราขึ้น
เพื่อรักษาความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศ การแขงขันอยางเปนธรรม การปองกันหรือขจัดการกีดกันหรือการผูกขาด การคุมครอง
ผูบริโภค การจัดระเบียบการประกอบอาชีพเพียงเทาที่จําเปน หรือเพื่อประโยชนสาธารณะอยางอื่น”
3) สิทธิขั้นพื้นฐานประเภทที่รัฐธรรมนูญรับรองไวโดยไมอนุญาตใหฝายนิติบัญญัติไปตรากฎหมายจํากัดสิทธิไดในทุกกรณี
แตการใชสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นจะตองไมขัดหรือแยงกับคุณคาบางประการที่รัฐธรรมนูญกําหนดไวเปนการเฉพาะ ยกตัวอยางเชน มาตรา 31
ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีเสรีภาพบริบูรณในการถือศาสนาและยอมมีเสรีภาพ
ในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน แตตองไมเปนปฏิปกษตอหนาที่ของปวงชนชาวไทย ไมเปนอันตรายตอ
ความปลอดภัยของรัฐ และไมขัดตอความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของประชาชน”.
20 From Staatsrecht: Systematische Erläuterung des Grundgesetzes (p. 101), by Badura, Peter, 2003,
München: 3. Aufl.

