Page 61 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 61

ใหม่ เพื่อไม่ให้แพ้โหวต ไม่ฉะนั้นจะทำให้แพ้ไปเลย องค์กรนี้ถูกมองว่าเป็น
                                 องค์กรฝ่ายซ้ายที่จะเข้าข้างประชาชนมากเกินไป
                                      ท้ายที่สุดของการต่อรองในการแปรญัตติจึงทำให้เหลือบทบัญญัติแค่
                                 2 มาตรา โดยมีเงื่อนไขที่เป็นข้อดีของการร่างรัฐธรรมนูญปี 40 คือ 1)
                                 กระบวนการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน 2) สส.แล ะสว.ไม่มีสิทธิแก้ มีแค่
                                 สิทธิโหวตให้ผ่านหรือไม่ผ่าน และ 3) มีอนุกรรมการทุกจังหวัดในการจัด
                                 เวทีประชาพิจารณ์ และหนึ่งในหลายคำถามก็คือเห็นด้วยกับการมี
                                 คณะกรรมการสิทธิฯ หรือไม่และชาวบ้านก็เห็นด้วยกันเยอะ เพราะเขาถูก
                                 ละเมิดในหลายส่วน เรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่ดิน และหลายเรื่องที่ไม่
                                 เคยพึ่งรัฐบาลหรือนักการเมืองได้เลย จึงอยากจะมีตัวช่วย ประกอบกับ

                                 แบบสอบถามที่คนเห็นด้วยให้มีคณะกรรมการสิทธิฯ ประมาณ 1 ล้านคน
                                      เพราะฉะนั้นแล้ว องค์กรสิทธิฯ จึงเกิดยากและได้รับแรงสนับสนุน
                                 จากหลายฝ่าย และที่ชัดเจนที่สุดคือ คณะกรรมการสิทธิฯ เกิดขึ้นมาจาก
                                 ความคาดหวังของผู้คนเป็นอย่างมากที่จะต้องลุกขึ้นมาคุ้มครองและ
                                 ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนให้ได้ มันเกิดขึ้นมาจากพลังของผู้คนและขบวนการธง
                                 เขียวที่ลุกขึ้นมาทั่วประเทศจึงผลักดันให้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นผ่าน (KI004,
                                 14 พ.ย. 2564)

                          ความยากลำบากแสนเข็ญและต้องใช้พลังความกล้าหาญ และการต่อสู้ต่อรองหลายด้าน เป็น
                    ที่รับรู้กันในวงวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน แม้ว่าในช่วงเวลาที่มีขบวนการเคลื่อนไหวอยู่นั้น
                    วงวิชาการไทยยังไม่มีการเปิดการเรียนการสอนด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม  แม้ว่าจะมี
                    นักวิชาการที่ทำงานขับเคลื่อนเชิงความรู้ และ ปฏิบัติการอยู่บ้าง แต่ก็มีไม่มากนักนัก  เสียงสะท้อน
                    จากอีกเสียงหนึ่งซึ่งเป็นทั้งนักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิ

                                      กรรมการสิทธิฯ ไม่ได้มาง่ายๆ ใช้เวลาตั้งแต่ปี 1992 ถึง 1997
                                 ผลักดันมา เจ้าหน้าที่ทั้งหลายในกรรมการสิทธิฯ ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ในชุด
                                 แรกไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้ ยิ่งชุดนี้ไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเราใช้พลังขนาด
                                 ไหนกว่าจะได้มา เจ้าหน้าที่ที่นั่งตอนนี้รับรองว่าไม่มีใครรู้ นี่คือที่มาที่ไป
                                 เล็กน้อยเท่านั้น... (KO014, 16 พฤศจิกายน 2564)


                          การรับรู้ประวัติศาสตร์เรื่องราวความยากลำบากในการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยเหล่านี้ มี
                    ความสำคัญต่อการตระหนักรู้คุณค่าของการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากมุมมอง
                    ของผู้ที่ถูกละเมิดที่มักจะมาจากคนกลุ่มที่มีอำนาจน้อยที่สุดในสังคมในการจะเปล่งเสียงบอกเล่า
                    ความทุกข์ระทมจากการถูกผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าละเมิด ยิ่งกว่านั้น ในการรณรงค์เพื่อปกป้อง
                    คุ้มครองสิทธิมนุษยชนในหลายกรณีทั่วโลก เรื่องเล่าการเริ่มต้นในลักษณะเดียวกันข้างต้นนำมาสู่
                    การเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างที่ส่งผลต่อการปกป้องคุ้มครองสิทธิคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคม
                    อย่างเป็นรูปธรรม และโดยเฉพาะในระดับการจัดทำหลักประกันในทางกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้อง
                    ต่อสู้กันอย่างหนักโดยเฉพาะในสังคมที่อาจจะยังไม่ได้เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์เสมอกัน และยังไม่
                    มีภาษาสิทธิมนุษยชนที่แพร่หลายดังที่กล่าวไปแล้วในบทที่ 2 นอกจากนี้ เพราะสังคมไทยตั้งแต่

                    กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทยเป็นต้นมา ไม่เคยมีการกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชน
                    อย่างตรงไปตรงมามาก่อน แม้ว่าไทยจะเป็น 1 ใน 48 ประเทศที่ร่วมลงนามรับรองหลักการสิทธิ

                                                            -54-
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66