Page 62 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 62

มนุษยชนสากลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 แล้วก็ตาม ดังนั้น บทบาทของภาคประชาชนจึงสำคัญอย่าง
                    มากในการร่วมมือกันผลักดันเพื่อให้มีการกำหนดในกฎหมายหลักของประเทศให้ได้

                                      ในที่สุดเราก็ได้มาตรา 199 และ 200 ต้องไปดูรัฐธรรมนูญฉบับปี 40
                                 มีสองมาตราที่พูดถึงการจัดตั้งกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และหมวดที่ 3
                                 มีการพูดถึงเอาไว้ นั้นคือการผลักดันของภาคประชาสังคมล้วน ๆ อาจจะ
                                 ไม่ให้เครดิตกับภาควิชาการมากนัก
                                      พอได้รัฐธรรมนูญมาแล้วสิ่งที่พยายามทำกับภาคประชาสังคมคือ
                                 ร่าง พรบ.สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตอนนั้นมี 5 - 6 ร่าง พวกเราก็เอาร่าง
                                 มาพยายามศึกษา ผลักดันให้เอาร่างของเราเข้าไป ผลักดันสองสามปีผ่าน

                                 สภา มีร่าง พรบ.สิทธิ์ฯ มันก็คือการประนีประนอม ในที่สุดอาจจะได้มาแค่
                                 50 เปอร์เซนต์  (KO014, 16 พฤศจิกายน 2564)

                          ความท้าทายในการผลักดันสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยนอกเหนือจากการไม่เคยมีการกำหนด
                    ในทางกฎหมายแล้ว ในทางการเมืองพบว่า นักการเมืองในเวลานั้นนอกจากไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน
                    อย่างเข้าใจและแข็งขันแล้ว ยังมีพรรคการเมืองและนักการเมืองของบางพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับการ
                    ให้มีสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย และมีวิธีการโจมตีในทางการเมืองดังที่ปรากฏเป็นส่วนหนึ่ง
                    ที่ได้รับการบอกเล่าจากพยานคนสำคัญในกระบวนการร่างกฎหมายเพื่อเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบว่า

                                      พี่อยู่ในกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ในสภาฯ มีการร้องห่ม
                                 ร้องไห้กัน เพราะว่า พวก ส.ส. โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ ไม่อยากได้
                                 กรรมการสิทธิฯ
                                      มีหนังสือสนเท่ห์อยู่ตามห้องน้ำเต็มไปหมด เขาบอกถ้าได้กรรมการ
                                 สิทธิฯ มาจะผลาญเงินไปเท่าไหร่เพราะตำแหน่งนี้เงินสูง มีรถเบนซ์นู่นนี่
                                 เราอยู่ในสภาฯ เราโดนชี้หน้าด่าจาก ส.ส.เป็นประจำ แม้แต่ในการประชุม
                                 สภาก็ชี้หน้าด่าเอ็นจีโอ ด่านักวิชาการว่าเป็นข้ารับใช้อเมริกา เพราะเรื่อง

                                 สิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องของไทยนี่คือวาทกรรมในสภาสมัยนั้น (KO014,
                                 16 พฤศจิกายน 2564)

                          เรื่องเล่าข้างต้นสะท้อนให้เห็นความไม่เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน การไม่ให้คุณค่าความสำคัญ
                    ของการมีองค์กรที่จะปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นสถาบันที่แยกออกมาต่างหาก และสะท้อนภาพ
                    มายาคติที่ยังคงได้ยินในเวลาต่อมาอีกหลายปี ทั้งที่ในทางที่ควรจะเป็น คือ นักการเมืองที่เป็น
                    ตัวแทนของประชาชนควรจะสนับสนุนและเห็นคุณค่าการมีองค์กรที่ช่วยปกป้องประชาชน เป็นปาก
                    เป็นเสียงให้ประชาชน และทำหน้าที่ช่วยนักการเมืองในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิของประชาชน
                    โดยภาครัฐและภาคส่วนอื่น ๆ ด้วย










                                                            -55-
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67