Page 139 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 139
เครือข่ายทางด้านสิทธิมนุษยชนทางการเมืองที่มีหลายเสียงสะท้อนให้
เห็นว่า “ไม่มีการทำงานร่วมกันเลย” ขณะที่เครือข่ายสิทธิทาง
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมมีความร่วมมือกับภาคธุรกิจในประเด็น
ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
3.2.1.4 หลักการปารีสอีกประการที่ต้องยึดหลักการความร่วมมือกับทุกฝ่าย
ตั้งแต่สหประชาชาติ สถาบันสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคและ
ระดับประเทศ องค์การเอกชนหรือองค์การที่มิใช่ของรัฐ (NGO)
ต ล อ ด จ น อ ง ค ์ กา ร ร ะ ห ว ่ า ง ร ั ฐ บา ล ( Intergovernmental
Organizations) ที่มีหน้าที่ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและกับ
หน่วยงานตุลาการ พบว่าในการทำงานของ กสม.ชุดที่ 1 ค่อนข้างมี
ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในระดับดีมาก เสียงสะท้อนจากผู้ให้ข้อมูล
ยืนยันตรงกัน
3.2.1.5 สำหรับหลักการปฏิบัติในเรื่องการต้องยึดหลักประสิทธิภาพในเชิง
ปฏิบัติการ (Operational efficiency) โดยการจัดหาทรัพยากรที่
เพียงพอ วิธีการทำงานที่ไม่เป็นแบบราชการ บุคลากรมีความรู้ และ
ความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน พบว่า เสียงสะท้อนจากบุคลากรภายใน
องค์กรเองที่สะท้อนว่าภายในองค์กรยังยึดติดกับวัฒนธรรมและการ
ทำงานแบบองค์กรราชการค่อนข้างมาก บุคลากรขาดความรู้ความ
เชี่ยวชาญและความแม่นยำในหลักการสากล บางส่วนไม่มีความรู้ความ
เข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชน และต้องการพัฒนาความรู้และทักษะในการ
ทำงานเพื่อปกป้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอีกมาก ยิ่งกว่านั้น บุคลากร
ในองค์กรยังสะท้อนความต้องการทรัพยากรและเครื่องมือที่ทันสมัยมี
ประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้การทำงานมีความเหมาะสมกับปริมาณงานที่
เพิ่มมากขึ้น และสภาพการทำงานที่ต้องปรับให้ทันกับเวลาที่กำหนดไว้
ในแต่ละตัวชี้วัดขององค์กร
3.2.1.6 สำหรับการปฏิบัติตามหลักความรับผิดชอบทางด้านกฎหมายและด้าน
การเงินต่อรัฐบาลและรัฐสภา โดยต้องเผยแพร่รายงานและให้
สาธารณชนตรวจสอบการทำงานของสถาบันได้อย่างแท้จริงของ กสม.
พบว่ามีเสียงเรียกร้องจากมุมมองของคนนอกว่า การรายงานการ
ทำงานประจำปีควรปรับรูปแบบให้เป็นการรายงานต่อภาคประชาชน
โดยอาจจัดเป็นมหกรรมด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี ไม่ควรรายงานต่อ
สภาเท่านั้น ขณะที่มุมมองภายในของ กสม. พบว่ามีช่องว่างและ
ความแตกต่างระหว่างรัฐสภา กับ สภาผู้แทนราษฎรในเรื่องความเข้าใจ
ต่อการรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและรายงานการทำงาน ของ
กสม. โดยในส่วนของรัฐสภาปัจจุบันยังมีความไม่เข้าใจต่องานด้านสิทธิ
มนุษยชนอยู่มาก ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรมีความเข้าใจงานด้านสิทธิ
มนุษยชนมากกว่า ซึ่งทั้งสองส่วนมีผลต่อการขับเคลื่อนงานของ กสม.
-134-