Page 144 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 144
สาธารณชน แต่ด้วยเงื่อนไขทางสังคมการเมืองไทยที่ยังไม่มีเสถียรภาพมาก
นัก และประชาธิปไตยไม่ได้หยั่งรากลึกอย่างมั่นคงเพียงพอ ตลอดจน
วัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนยังเป็นประเด็นที่ขาดความรู้ความเข้าใจ
อย่างแท้จริงในสังคม โดยเฉพาะในฝ่ายผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายและ
ออกกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการปารีส ดังนั้น จึงยังมี
นโยบายและกฎหมายบางประการที่ไม่เอื้อให้การทำงานภายใต้หลักการ
ปารีสมีความต่อเนื่องและเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ชัดมากนัก
4.2.3 การปรับปรุงโครงสร้างและยกระดับคุณภาพการทำงานของบุคลากร
4.2.3.1 การปรับโครงสร้างองค์กรให้เอื้อต่อการทำงานในเชิงบูรณาการความ
ร่วมมือภายในให้มากขึ้น เนื่องจากการจัดโครงสร้างที่มีอยู่เดิมเป็น
ลักษณะเป็นแท่ง และขาดการไหลเวียนของการสื่อสารภายในองค์กร
แนวระนาบ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการส่งต่อและติดตามงาน
4.2.3.2 วัฒนธรรมองค์การราชการ
“ระเบียบขั้นตอนมาก” “เข้าถึงยาก” “ล่าช้า” เป็นถ้อยคำที่สะท้อน
จากมุมมองของคนภายนอกที่มองกลับเข้ามายังการทำงานของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานที่ถูก
ตั้งข้อครหาว่า ติดกับดักความเป็นราชการ ไม่ได้ใส่ใจต่อทุกข์ร้อนของ
ชาวบ้านมากพอ แก้ปัญหาให้ชาวบ้านไม่ได้ทันท่วงที บางกรณีที่ชาวบ้านถูก
จับ หรือเยาวชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองถูกจับกุมคุมขังโดยไม่ได้สิทธิใน
การเข้าถึงทนายความ หรือถูกคุกคามทางเพศ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในสังคม
แล้วแต่ กสม. ยังไม่แสดงตนปกป้องประชาชน เป็นต้น
ในทางตรงกันข้าม มุมมองจากคนภายในองค์กรเองสะท้อนว่า ไม่มี
อำนาจและภาระงานที่อยู่ตรงหน้ามีมากเกินกว่าจะปลีกตัวได้ ไม่รู้ว่าจะต้อง
ทำอะไร อย่างไรเพราะเป็นเพียงพนักงานตัวเล็ก ๆ หากไม่มีระเบียบหรือ
คำสั่งก็เกรงว่าจะทำผิด
4.3 ข้อท้าทายภายใต้วัฒนธรรมไทย
4.3.1 ความไม่ลงรอยของชุดคุณค่าสากลกับชุดคุณค่าของสังคมไทย พบว่า “สิทธิ
มนุษยชนเป็นเรื่องของฝรั่ง” “สิทธิมนุษยชนเป็นการแทรกแซงของ
ต่างชาติ” ยังคงเป็นวาทกรรมที่ลดทอนความน่าเชื่อถือในการขับเคลื่อนการ
เคารพสิทธิมนุษยชน ขณะที่คุณค่าหลักเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียมใน
ความเป็นมนุษย์ยังคงถูกท้าทายด้วยชุดคุณค่าที่ว่า “คนไม่เท่าทัน” และการ
เปรียบเทียบว่า “นิ้วยังไม่เท่ากัน” หรือ “ทำบุญมาต่างกัน”
4.3.2 วิกฤตความเชื่อมั่น
กสม.คืออะไร กสม.มีไว้ทำไม กสม.มีไว้ก็ทำอะไรไม่ได้ช่วยประชาชนไม่ได้
เป็น “ยักษ์ไม่มีกระบอง” เป็นถ้อยคำที่พบมากจากมุมมองของคนภายนอก
รวมทั้งความกังขาว่าจะทำหน้าที่เข้าข้างรัฐ ปกป้องรัฐมากกว่าที่จะปกป้อง
และเข้าข้างประชาชน
-139-