Page 138 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 138
ขณะเดียวกัน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปีพุทธศักราช 2560 ซึ่งร่างมาให้
เอื้อต่อการมีคณะกรรมการสรรหาที่หลากหลาย สอดคล้องกับหลัก
ความเป็นอิสระในการทำงานของคณะกรรมการ ทว่าในมาตรา 247 ข้อ
4 ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการ
รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้อง
หรือไม่เป็นธรรม ก็เป็นประเด็นที่อยู่ในความสงสัยและไม่เชื่อมั่น
ไว้วางใจในความเป็นอิสระจากการถูกครอบงำจากรัฐบาล ทั้งนี้ ผู้ให้
ข้อมูลส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่าเป็นผลพวงมาจากการที่ขั้นตอนสุดท้ายของ
การสรรหาคณะกรรมการต้องไปผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา ซึ่ง
วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของภาค
ประชาชน
3.2.1.2 โดยหลักการนั้นได้ระบุให้มีการกำหนดภาระหน้าที่อย่างชัดเจนและมี
อำนาจเพียงพอในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตาม
รัฐธรรมนูญ ทว่าที่ผ่านมามีเพียงรัฐธรรมนูญ 2550 ที่กล่าวได้ว่าได้
เขียนครอบคลุมหลักการข้างต้นได้มากที่สุด โดยเฉพาะในมาตรา 257
ข้อ (2) เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่
เห็นชอบตามที่มีผู้ร้องเรียนว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกระทบต่อ
สิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาล
รัฐธรรมนูญ (3) เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง ใน
กรณีที่เห็นชอบตามที่มีผู้ร้องเรียนว่ากฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใด
ในทางปกครองกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาที่เกี่ยวกับ
ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง และ (4) ฟ้องคดีต่อ
ศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย เมื่อได้รับการร้องขอจากผู้เสียหายและเป็น
กรณีที่เห็นสมควรเพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น
ส่วนรวม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่สำคัญที่จะ
ทำให้ กสม.สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ที่ถูกละเมิดได้อย่างดี
ที่สุดเท่าที่กฎหมายไทยเคยมี แต่ถูกยกเลิกไปในรัฐธรรมนูญ 2560
3.2.1.3 หลักการข้อที่ว่า กสม. ต้องเป็นสถาบันที่บุคคลและคณะบุคคลทุกฝ่าย
สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยมีกฎเกณฑ์และกระบวนการทำงานที่
ประชาชนสามารถติดต่อยื่นคำร้องเรียนได้ อย่างสะดวกรวดเร็ว มี
สำนักงานสาขาทุกภูมิภาคเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์ได้ทั่วประเทศ พบว่า
หลักการข้อนี้ได้รับการปฏิบัติใน กสม.ชุดที่ 3 อย่างเป็นรูปธรรม เห็นได้
จากการประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้ง 12 แห่งทั่ว
ประเทศ อย่างไรก็ดี ในส่วนของการทำงานกับเครือข่ายภาคประชาชน
อื่น ๆ พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรในชุดที่ 3 โดยเฉพาะ
-133-