Page 124 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 124
รายหนึ่งสะท้อนความเข้าใจของสังคมต่อบทบาทหน้าที่ของกสม. ว่า กสม.มักจะถูกมองว่าเป็น NGO
หรือหัวหน้า NGO แต่บทบาทหน้าที่ของกสม.นั้นเป็นผู้ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแล (regulator) ซึ่ง
หมายถึงภารกิจด้านการคุ้มครองและปกป้องสิทธิมนุษยชนนั่นเอง
“สิ่งที่ท้าทาย คือ คนไม่รู้จัก (กสม.) และเราต้องพูดว่ากสม. ไม่ใช่ NGO
และไม่ใช่หัวหน้า NGO … เขาไม่รู้ว่ากสม. คืออะไร และทำหน้าที่อะไร เวลาคน
เชิญไปพูด เขาคิดว่าเราเป็นกรมคุ้มครองสิทธิ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาล กสม.
ไม่ใช่กรุมคุ้มครองสิทธินะ … จนมาวันหนึ่งมีคนมาถามว่ากสม. เป็น regulator
(หน่วยงานกำกับดูแล) ใช่ไหม ก็เลยตอบว่าใช่” (สัมภาษณ์ KI002 12
พฤศจิกายน 2564)
กสม. ในฐานะกระบวนกร (facilitator)
งานวิจัยพบว่าความคาดหวังของประชาชนและสังคมที่มีต่อกสม. นั้นมีความหลากหลาย
หากพิจารณาถึงความเป็นไปได้นั้นกสม. เองก็ไม่ใช่สถาบันที่สมบูรณ์แบบนัก แต่สิ่งที่กสม. จะทำได้
ตามอำนาจหน้าที่ คือ บทบาทหน้าที่การเป็นกระบวนกร (facilitator) โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึง
เหลียวหลังมอง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาของกสม. นั้นในกรณีที่ประสบความสำเร็จนั้นอาจไม่สามารถ
กล่าวอ้างได้ว่าสิ่งที่ประสบความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลงานของกสม.แต่เพียงผู้เดียว สิ่งนี้ยืนยันให้
เห็นว่ากสม.ต้องทำงานกับเครือข่าย เปิดพื้นที่ ให้ข้อมูลกับหน่วยงาน พัฒนา จัดทำเป็นข้อเสนอเชิง
นโยบายต่อรัฐบาล ติดตามผล เพื่อสร้างการปกป้องคุ้มครองกับคนในรัฐเรื่องการปกป้องสิทธิ
มนุษยชน รวมทั้งการหนุนเสริมความรู้ (empowerment) ให้กับประชาชนในเข้าใจเรื่องสิทธิ
มนุษยชน และผ่อนคลาย (cool down) อุณหภูมิความร้อนแรงของสังคม นอกจากนี้คุณค่าสำคัญ
ของกระบวนกร (facilitator) ของกสม. คือ คุณค่าในงานคุ้มครองปกป้อง รวมถึงอำนาจในการเรียก
พยานมาตรวจสอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หน่วยงานงานทำไม่ได้
“กสม. ไม่ใช่พระเอก ไม่ใช่ฮีโร่ แต่จะต้องเป็นผู้ที่เอื้อให้สังคมขับเคลื่อนได้
โดยที่เราต้องสร้างเงื่อนไข ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมให้กับภาคส่วน
ต่าง ๆ ให้พิทักษ์และปกป้องสิทธิของเขา กสม.ไม่ใช่เทวดา ที่จะมาปกป้องสิทธิ
ให้ทุกคนหรอก แต่คุณ (กสม.) ต้องสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในภาคส่วน
ต่าง ๆ และยืนยันในเรื่องสิทธิ กสม.ต้องเร่งให้มันเกิดการเข้าถึงสิทธิ มันเป็น
ภารกิจที่ที่สำคัญที่กสม.จะต้องตระหนัก ไม่อย่งนั้นแล้วมันก็จะเป็นองค์กรที่ไม่มี
ประโยชน์ มันก็ได้แค่เอาไว้โชว์ในเวทีสากลระหว่างประเทศ” (สัมภาษณ์ KI006
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564)
“... กระบวนการติดตาม (Follow up) และการเสริมอำนาจ (Empower)
มีความสำคัญมาก ทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ได้มีโอกาสสร้างพลังของ
ตัวเองผ่านกสม.” (สนทนากลุ่มภายนอก, 25 มกราคม 2565)
“กสม. มีอำนาจในการเรียกพยานค้นหาข้อเท็จจริง และทำการสืบสวนที่
นำไปสู่ความรับผิดชอบ เหล่านี้น่าจะเป็นมูลค่าเพิ่ม ซึ่งยังทำไม่พอ” (สัมภาษณ์
KI011 18 พฤศจิกายน 2564)
-118-