Page 103 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 103

86



                       การผลิตมีการใช้น้้าในระดับต่้า นั่นหมายความว่าการน้าทรัพยากรน้้ามาใช้เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าด้าน
                       เศรษฐกิจยังค่อนข้างน้อย และความมั่นคงของทรัพยากรน้้าอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ประเทศ

                       ไทยมีศักยภาพด้านการจัดหาแหล่งน้้าที่สะอาดสูง มีแหล่งน้้าสะอาดจ้านวนมากถึงร้อยละ 98 เมื่อ

                       เปรียบเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก มีการเข้าถึงแหล่งน้้าทางการเกษตรอย่างทั่วถึง แต่ในขณะเดียวกัน
                       ปริมาณน้้าที่ใช้อย่างคุ้มค่าและสร้างมูลค่าให้กับประเทศค่อนข้างต่้า ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยมี

                       ทรัพยากรน้้าจ้านวนมากแต่ขาดการจัดการด้านการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าทั้งด้านการน้าไปใช้ในระบบ

                       การผลิต การน้าน้้ากลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการจัดการในด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้า ข้อมูลดังกล่าว
                       สะท้อนถึงความคุ้มค่าของการใช้น้้าของไทยก่อให้เกิดคุณค่าด้านการผลิตเพื่อสร้างรายได้ให้กับ

                       ประชากรอยู่ในระดับต่้า เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางในภูมิภาคเดียวกัน ดังแสดง

                       ในแผนภูมิที่ 4.7 (Sucharit Koontanakulvong, 2019)


                          700                                                                    585.5
                        ผลิตภาพด้านน ้า (Water productivity)  500                        106.8
                          600



                          400

                          300

                          200

                          100

                            0     2.5     1.4     2.3     6.3     7.9     3.6     23.8
                                 กัมพูชา เวียดนาม  ลาว  ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย  มาเลเซีย บรูไน  สิงคโปร์


                            แผนภูมิที่ 4.7  ผลิตภาพด้านน้้า (Water productivity) ของประเทศในภูมิภาคอาเซียน
                                        ที่มา: ดัดแปลงจาก Sucharit Koontanakulvong (2019)



                              จากแผนภูมิข้างต้นนอกจากปริมาณผลผลิตที่ได้เทียบกับหน่วยการใช้น้้าจะอยู่ในปริมาณที่ต่้าแล้ว
                       ในทางกลับกันปริมาณการสูญเสียและการใช้น้้าของประเทศกลับอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก โดยแนวทาง

                       การวัดปริมาณน้้าที่สูญเสียไปในกระบวนการผลิตหรือที่เรียกว่า water footprint (รอยเท้าน้้า)

                       เป็นการวัดค่าการใช้น้้าของผู้ผลิตและผู้บริโภค ได้แก่ ปริมาณการใช้น้้าในกระบวนการผลิตและการ
                       บริโภคทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยค้านวณปริมาณน้้าจากผลรวมทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่การผลิต

                       สินค้า และบริการหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นค่าการวัดที่มี

                       ความชัดเจนเพราะนอกจากจะแสดงปริมาณน้้าใช้ และน้้าเสียในกระบวนการผลิตแล้วยังแสดงถึง
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108