Page 265 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 265
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
ในบำงกรณีก็มีประเด็นที่น่ำพิจำรณำว่ำเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติหรือไม่ เช่น กรณีผู้ไม่
ผ่ำนกำรคัดเลือกเข้ำเป็นนักศึกษำแพทย์อ้ำงว่ำถูกเลือกปฏิบัติ (คดีหมำยเลขแดงที่ อ ๙๗๒/๒๕๕๖ คดีหมำยเลขด�ำ
ที่ อ ๖๗๓/๒๕๕๒) ข้อเท็จจริงในคดีนี้สรุปได้ว่ำ ผู้ฟ้องคดีสมัครสอบคัดเลือกและผ่ำนกำรสอบข้อเขียนของวิทยำลัย
แพทยศำสตร์ มหำวิทยำลัยแห่งหนึ่ง แต่ไม่ผ่ำนกำรสัมภำษณ์ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ำตนถูกเลือกปฏิบัติ ศำลปกครองสูงสุด
พิจำรณำประเด็นกำรที่คณะกรรมกำรสอบสัมภำษณ์มีมติไม่รับผู้ฟ้องคดีเข้ำศึกษำ เห็นว่ำกรรมกำรทุกคนไม่เคยมีเหตุ
โกรธเคืองกับผู้ฟ้องคดีมำก่อน จึงไม่มีมูลเหตุจูงใจที่จะกลั่นแกล้งไม่รับผู้ฟ้องคดีเข้ำศึกษำ ส�ำหรับหลักเกณฑ์กำรประเมิน
ผลกำรสอบสัมภำษณ์นั้น ปรำกฏตำมเอกสำรกำรสัมภำษณ์ว่ำ มีการก�าหนดลักษณะที่ไม่พึงประสงค์เช่น “Overt
Homosexuality” การแต่งตัว กิริยามารยาทไม่เหมาะสม การควบคุมอารมณ์ไม่เหมาะสม ความไม่รับผิดชอบ
ขาดมนุษยสัมพันธ์ ขาดความใฝ่รู้ อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริงในการพิจารณา ศาลปกครองรับฟังได้ว่า การตอบค�าถาม
ตลอดจนกิริยาอาการของผู้ฟ้องคดีในการสอบสัมภาษณ์เป็นเหตุให้กรรมกำรทั้ง ๙ คนมีมติไม่รับผู้ฟ้องคดี
เข้ำศึกษำ ดังนั้น กำรใช้ดุลพินิจของคณะกรรมกำรสอบสัมภำษณ์ในกำรลงมติดังกล่ำวจึงเป็นกำรพิจำรณำที่มี
เหตุผลเหมำะสมและชอบด้วยกฎหมำยแล้ว นอกจำกนี้ กำรคัดเลือกบุคคลเข้ำศึกษำวิชำแพทยศำสตร์ย่อมต้อง
คัดเลือกจำกผู้มีควำมรู้ควำมสำมำรถ สภำพกำยและสภำพจิตใจเหมำะสมที่จะประกอบวิชำชีพแพทย์ คณะ
กรรมกำรสอบสัมภำษณ์ย่อมสำมำรถใช้ดุลพินิจโดยพิจำรณำจำกบุคลิกลักษณะและสภำวะทำงอำรมณ์ของ
ผู้เข้ำสอบสัมภำษณ์ได้ อีกทั้งคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ก็มิได้พิจารณาไม่รับผู้ฟ้องคดีเพราะเหตุ
ด้านบุคลิกภาพแต่ประการเดียว แต่ยังปรำกฏควำมไม่เหมำะสมด้ำนอื่นอีกหลำยประกำรที่เป็นเหตุผลในกำรไม่รับ
ผู้ฟ้องคดีเข้ำศึกษำ กำรพิจำรณำของคณะกรรมกำรสอบสัมภำษณ์จึงไม่ใช่กำรกระท�ำที่ต้องห้ำมตำมมำตรำ ๓๐ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๔๐ จำกคดีดังกล่ำว ผู้วิจัยมีข้อพิจำรณำ ดังนี้
๑) “เหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ” ในกรณีนี้ หำกปรำกฏว่ำ กรรมกำรคัดเลือกตัดสินจำกกำรแสดงออก
ทำงเพศ เช่น “Overt Homosexuality” ก็จะเป็นกรณีกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกับบุคลด้วยเหตุรสนิยมทำงเพศ ซึ่งเป็น
เหตุที่ได้รับกำรคุ้มครองตำมกฎหมำย อย่ำงไรก็ตำม แม้จะมีกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันด้วยเหตุรสนิยมทำงเพศ แต่หำก
มีเหตุผลอันสมควร เช่น สำมำรถแสดงให้เห็นควำมจ�ำเป็นของคุณสมบัตินั้นต่อกำรท�ำงำนหรือกำรศึกษำได้ ก็อำจไม่
เป็นกำรเลือกปฏิบัติ
๒) ในคดีนี้ปรำกฏว่ำ นอกจำกเหตุเกี่ยวกับรสนิยมทำงเพศแล้ว มีเหตุอื่นอีกหลำยเหตุที่กรรมกำรน�ำมำ
พิจำรณำ เช่น กำรตอบค�ำถำม กิริยำอำกำร จะเห็นได้ว่ำ เหตุเหล่ำนั้นไม่เกี่ยวข้องกับ “เหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ” ตำม
กฎหมำยสิทธิมนุษยชน ดังนั้น จะเห็นได้ว่ำ หำกมีกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันด้วยเหตุอื่น ๆ เช่น เหตุเชิงพฤติกรรม ที่
ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติดังเช่นข้อเท็จจริงตำมกรณีนี้แล้ว ก็จะไม่อยู่ภำยใต้กำรห้ำมเลือกปฏิบัติตำม
กฎหมำยสิทธิมนุษยชน
๓) กำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัตินั้นเป็นกำรยำกในกำรพิสูจน์ เนื่องจำกผู้ที่ปฏิบัติ
กำรอันพิพำทนั้นอำจอ้ำงเหตุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ หรือมีกำรน�ำเหตุอื่น ๆ เข้ำมำประกอบ
กำรพิจำรณำหรือตัดสินใจในกรณีที่มีเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ปัญหำจึงอยู่ที่ข้อเท็จจริงในกำรระบุชัด
ถึงมูลเหตุกำรปฏิบัติอันแตกต่ำงนั้นว่ำมำจำกเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติหรือเหตุอื่น
นอกจำกนี้ ยังมีบำงกรณีมีข้อน่ำพิจำรณำว่ำเป็นกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่งเชื้อชำติ ภำษำ
หรือไม่ เช่น กรณีข้อบังคับกำรศึกษำที่ก�ำหนดให้ใช้ภำษำอังกฤษในกำรเขียนวิทยำนิพนธ์นั้น ศำลเห็นว่ำ เป็นกฎที่ใช้กับ
264