Page 88 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 88
79
ส่วนอนุสัญญาอีกสองฉบับที่ไทยยังไม่ได้เป็นภาคีคือ อนุสัญญาว่าด้วยการปูองกันบุคคลจากการหายสาบสูญ
โดยถูกบังคับ และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในรอบครัว
หลักความเสมอภาคและหลักการไม่เลือกปฏิบัติถือเป็นหลักการแห่งสิทธิมนุษยชน
ที่สําคัญซึ่งปรากฏอยู่ในตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ อาทิ กฎบัตรสหประชาชาติ
(Charter of the United Nations, 1945, Preamble, Art.1(2), 3, 13 (1)(b), 55 (c) and 77 (C) ว่าด้วย
ข้อห้ามในการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุเชื้อชาติ เพศ ภาษา และ ศาสนา) ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พ.ศ.
2491 (1948) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พ.ศ.2509 (1966) กติการะหว่าง
ประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม พ.ศ.2510 (1967) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย
การขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ พ.ศ.2508 (1965) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัด
การเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ พ.ศ. 2522 (1979) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก พ.ศ.2532 (1989) อนุสัญญา
ว่าด้วยสิทธิผู้พิการ พ.ศ. 2549 (2006)
กฎหมายระหว่างประเทศได้ให้ความสําคัญกับประเด็นปัญหาการเลือกปฏิบัติมา
อย่างยาวนานโดยพยายามกําหนดมาตรฐานทั่วไปให้ประเทศสมาชิกนําไปบัญญัติเป็นกฎหมายภายในประเทศตน
โดยแนวคิดการเลือกปฏิบัติจะปรากฏในตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนหลายฉบับดังกล่าวแล้ว
โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองในข้อที่ 2 (1) “รัฐภาคีแต่ละรัฐ
แห่งกติกานี้รับที่จะเคารพและประกันแก่ปัจเจกบุคคลทั้งปวง ภายในดินแดนของตนและภายใต้เขตอํานาจของ
ตนในสิทธิทั้งหลายที่รับรองไว้ในกติกานี้โดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ อาทิ เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนา
ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความคิดเห็นอื่น เผ่าพันธุ์แห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สิน กําเนิด หรือสถานะอื่น ๆ”
และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ
ได้บัญญัติไว้ในข้อ 2 (2) “รัฐภาคีแห่งกติกานี้รับที่จะประกันว่าสิทธิทั้งหลายที่ระบุไว้ในกติกานี้จะใช้ได้โดย
ปราศจากการเลือกปฏิบัติใดๆ ในเรื่องเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความ
คิดเห็นอื่นใด ชาติหรือสังคมดั้งเดิม ทรัพย์สิน กําเนิดหรือสถานะอื่น”
ในข้อ 2 ของตราสารระหว่างประเทศทั้งสองฉบับนี้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “รัฐภาคี
แห่งตราสารฉบับนี้รับประกันให้มีการใช้สิทธิ ซึ่งกําหนดไว้ในกติกาฉบับนี้โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติชนิดใดๆ
ที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมืองหรือความคิดเห็นอื่น ชาติหรือสังคมดั้งเดิม
ทรัพย์สิน กําเนิด หรือสถานะอื่น” คําว่า “สถานะอื่น” นี้มีความหมายครอบคลุมถึงลักษณะต่างๆ ที่ไม่ได้กําหนด
ไว้เป็นการเฉพาะและรวมตลอดถึง “สภาวะทางสุขภาพ” ตามความเห็นทั่วไป (General comments) ในเดือน
พฤษภาคม 2543 ของคณะกรรมการว่าด้วยกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
(Committee on Economic, Social, and Cultural Rights - CESCR) ความเห็นทั่วไป 14 ว่าด้วยสิทธิที่จะ
ได้รับมาตรฐานด้านสุขภาพที่สูงที่สุดที่เป็นไปได้ กําหนดให้มีความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ
โดยระบุว่า “ต้องจัดให้ทุกคนเข้าถึงสถานบริการ สินค้าและบริการ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงหรือ
กลุ่มที่ถูกเบียดให้อยู่ชายขอบของสังคมมากที่สุด ทั้งนี้ให้ทําทั้งในทางกฎหมายและโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อเงื่อนไข
ต้องห้ามบางอย่าง” (ย่อหน้า 12 b) ซึ่งรวมถึงความพิการทางกายหรือใจ สถานะด้านสุขภาพ และสถานะอื่นๆ