Page 85 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 85
76
สําหรับในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมา การเคลื่อนไหวปกปูอง
คุ้มครองและเผยแพร่แนวคิดสิทธิมนุษยชนค่อยๆ ขยายตัวมากขึ้นจนกระทั่งในปี พ.ศ.2540 จึงเกิดรัฐธรรมนูญ
ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางและยังมีบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างเด่นชัด รวมถึงการก่อให้เกิด
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2542 ด้วย
พระราชบัญญัตินี้ให้นิยามคําว่าสิทธิมนุษยชนไว้ว่า “สิทธิมนุษยชน หมายความว่า
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรองหรือคุ้มครองตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตามกฎหมายไทย หรือตามสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะ
ต้องปฏิบัติตาม” (นัยนา เกิดวิชัย, 2558 : 120)
4.2.1.2 หลักการของสิทธิมนุษยชน
จากการศึกษาวิเคราะห์ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พบว่า นอกจากระบุ
ขอบเขตของสิทธิมนุษยชนว่าครอบคลุมสิทธิอะไรแล้ว ตัวปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเองยังได้นําเสนอ
หลักการสําคัญของสิทธิมนุษยชนไว้ด้วย หลักการนี้ถือเป็นสาระสําคัญที่ใช้อ้างอิงความเป็นสากลของสิทธิ
มนุษยชน และใช้เป็นเครื่องมือชี้วัดว่าสังคมใดมีการเคารพและปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนหรือไม่
หลักการพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน 6 ประการ ได้แก่ 1) สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิ
ธรรมชาติติดตัวมนุษย์มาแต่กําเนิด (Natural rights) 2) สิทธิมนุษยชนเป็นสากลและไม่สามารถถ่ายโอนกันได้
(Universality & inalienability) 3) สิทธิมนุษยชนไม่สามารถแยกเป็นส่วนๆ ว่าสิทธิใดมีความสําคัญกว่าอีก
สิทธิหนึ่ง (Indivisibility) 4) คนทุกคนมีความเสมอภาคและห้ามการเลือกปฏิบัติ (Equality and non–discri-
mination) 5) การมีส่วนร่วมและการเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิ (Participation & inclusion) 6) ตรวจสอบได้และ
ใช้หลักนิติธรรม (Accountability & the rule of law) (UNDP, 2006) หลักการพื้นฐานทั้ง 6 ประการนี้สามารถ
อธิบายได้ดังนี้ (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, 2555)
1) สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิธรรมชาติ ติดตัวมนุษย์มาแต่เกิด (Natural rights)
หมายความว่า มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีประจําตัวตั้งแต่เกิดเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human dignity) นี้
ไม่มีใครมอบให้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้กําหนดขึ้นในมนุษย์ทุกคน ความหมายของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หมายถึง
(1) ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คือ คุณค่าของคนในฐานะที่เป็นมนุษย์ (2) การให้คุณค่าของมนุษย์ แบ่งเป็น 2
ประเภท คือ คุณค่าที่ถูกกําหนดขึ้นโดยสังคม เป็นการให้คุณค่าของมนุษย์ในฐานะการดํารงตําแหน่งทางสังคม
ซึ่งมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการมีอํานาจหรือการยึดครองทรัพยากรของสังคมและคุณค่าที่ถูกกําหนด
ขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นการให้คุณค่าของมนุษย์ในฐานะที่เป็นมนุษย์ซึ่งมีความเท่าเทียมกันไม่แบ่งแยกกัน
(3) การกําหนดคุณค่าที่แตกต่างกันนํามาซึ่งการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ผู้คนในสังคมโดยทั่วไปมักจะให้
คุณค่าทางสังคม เช่น ฐานะตําแหน่งหรือเงินตรามากกว่า การให้คุณค่าแบบนี้นํามาซึ่งการเลือกปฏิบัติจึงต้อง
ปรับวิธีคิดและเน้นให้มีการปฏิบัติ โดยการให้คุณค่าของความเป็นคนในฐานะความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ให้คุณค่า
คนตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
2) สิทธิมนุษยชนเป็นสากลและไม่สามารถถ่ายโอนกันได้ (Universality & inalien-
ability) หมายความว่า สิทธิมนุษยชนนั้นเป็นของคนทุกคน ไม่มีพรมแดน คนทุกคนมีสิทธิมนุษยชนต่างๆ