Page 82 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 82
73
4.1.2.3 สภาพปัญหาและข้อจ ากัดของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีในด้านการใช้ชีวิต
ประจ าวัน
ผลการศึกษาด้วยการสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์ และการจัดเวทีสาธารณะรับฟัง
ความคิดเห็น พบว่า ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่เห็นว่าการใช้ชีวิตประจําวันของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี โดยปกติ
แล้วไม่มีปัญหาหรือข้อจํากัดใดๆ นอกจากในกรณีการขอใบอนุญาตขับรถ ผู้ให้ข้อมูลท่านหนึ่งซึ่งเป็นนายแพทย์
ได้ให้ข้อมูลว่าในทางการแพทย์ ผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถดําเนินชีวิตประจําวันได้โดยปกติ และสามารถเรียนรู้
ได้เหมือนกับคนปกติ แต่ต้องมีการเรียนรู้ถึงความแตกต่างในการศึกษาแต่ละด้านเท่านั้น โดยถ้าพบว่าผู้ปุวยที่มี
ภาวะตาบอดสีแต่กําเนิด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําถึงโอกาสการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและโอกาส
หลีกเลี่ยงที่จะทําให้เกิดภาวะตาบอดสีในหมู่ญาติ และผู้ที่มีภาวะตาบอดสีภายหลังควรรับการตรวจวินิจฉัยถึง
สาเหตุ เพื่อแพทย์จะได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป และด้านการใช้ชีวิตประจําวัน โดยทั่วไปในชีวิต
ประจําวัน บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีอาจใช้ชีวิตโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่อาการของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
อาจเกิดความยุ่งยากในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกสีในชีวิตประจําวัน เช่น ตัดสินว่าผลไม้นี้สุกจากการดูสี
ไม่ได้ เลือกด้ายไหมในการเย็บปักผิด เลือกสีเฟอร์นิเจอร์ในบ้านผิด เด็กนักเรียนอาจเลือกสีระบายภาพวาดเขียนผิด
เป็นต้น แต่อาจเป็นความผิดพลาดที่ไม่ก่อผลเสียมากนัก บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีอนุโลมให้ขับรถได้ แต่ต้อง
ผ่านการทดสอบความสามารถในการบอกสีของสัญญาณไฟจราจรได้ถูกต้อง เพราะบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
จะทราบว่า ตนเองบอดสีอะไรหรือต้องสามารถแยกได้ว่าตําแหน่งใด เป็นสัญญาณไฟสีแดง สีเหลืองหรือสีเขียว
หากแยกสีเหล่านี้ได้ถูกต้อง ก็สามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้ หากผู้ปุวยมีอาการรุนแรงโดยตาบอดสีเหล่านี้
ทั้งหมดไม่สามารถแยกสีได้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถ เพราะจะทําให้เกิดอันตรายได้ (ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านที่ 11,
กระทรวงสาธารณสุข, สัมภาษณ์ 27 พฤษภาคม 2558) การใช้ชีวิตประจําวันของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
โดยปกติแล้วไม่มีปัญหาหรือข้อจํากัดใดๆ มีเพียงเรื่องการขอใบอนุญาตขับรถเท่านั้นที่บางคนไม่สามารถทดสอบ
ตาบอดสีผ่านได้ จึงต้องขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ และเป็นปัญหาเมื่อตํารวจขอตรวจดูใบอนุญาตขับรถ
และทําให้กลายเป็นการกระทําความผิดในกฎหมายจราจรทันที (ผู้แทนบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีท่านที่ 2,
การสนทนากลุ่มย่อย, 29 พฤษภาคม 2558) บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีอาจเป็นอุปสรรคต่อการขับรถยนต์
หรือจักรยานยนต์ ที่มีปัญหาในการขอรับใบอนุญาตขับรถจากกรมการขนส่งทางบกที่ได้มีการทดสอบสายตา
จากการมองเห็นสีไฟจราจรที่ทําให้บุคคลผู้ที่อาการตาบอดสีไม่ผ่านการทดสอบในขั้นตอนนี้ได้ (ผู้ให้สัมภาษณ์
ท่านที่ 1 สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, สัมภาษณ์ 4 กรกฎาคม 2558) ในขั้นตอนของการสอบ
ขอรับใบอนุญาตขับรถ เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกจะต้องทําการคัดกรองผู้ที่มีความบกพร่องทางการ
มองเห็นหรือตาบอดสี เพราะการแยกสัญญาณไฟจราจรนับว่ามีความสําคัญมากต่อการขับขี่รถบนท้องถนน
สํานักงานขนส่งจังหวัดอุทัยธานีได้ดําเนินการให้ประชาชนที่มีอาการตาบอดสี ในเรื่องความไม่เหมาะสมของ
ระเบียบกรมการขนส่งทางบกที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตขับรถแก่ผู้ที่ตาบอดสีได้ แต่ถ้าประชาชนซึ่งเป็นบุคคล
ผู้ที่มีอาการตาบอดสีมีความสามารถแยกสีไฟจราจรได้โดยไม่มีปัญหาแม้จะไม่ชัดมาก แต่ไฟจราจรก็มีช่องว่าง
และลําดับชัดเจน คือ แดง เหลือง เขียว และมีความสว่างของไฟที่เหมาะสม รวมทั้งใช้ประสบการณ์ในการ
เรียนรู้ของผู้อื่นได้ ทางหน่วยงานก็สามารถให้ใบอนุญาตขับรถได้เช่นกัน จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงกฎหมาย