Page 77 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี

68

กรณีศึกษาที่ 3 การศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ได้กําหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร
เข้าเรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตให้เหมาะสม โดยยึดหลักสําคัญ คือ

(1) ไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ปุวย
(2) ไม่ให้เกิดอันตรายต่อนักศึกษาแพทย์
(3) ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ในด้านที่เกี่ยวกับความผิดปกติในการมองเห็นภาพ ได้กําหนดไว้ว่า ผู้สมัครจะต้องปราศจาก
โรค หรือความพิการอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่ง ต่อไปนี้

(1) ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง โดยได้รับการตรวจอย่างละเอียดแล้ว
(2) ระดับการมองเห็นในตาข้างดี ต่ํากว่า 6/12 หรือ 20/40
เนื่องจากยังไม่เคยมีการกําหนดเกณฑ์ที่ชัดเจนในการตรวจตาบอดสีว่าแค่ไหนจึงจะจัดว่า

เป็น “ชนิดรุนแรง” และ “การตรวจอย่างละเอียด” หมายถึงการตรวจด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ใดบ้าง จึงเกิด
ปัญหาในการตัดสินที่จะรับหรือไม่รับผู้สมัครที่มีปัญหาตาบอดสี ให้เข้าศึกษาตามสถาบันต่างๆ เป็นประจําทุกปี

กรณีศึกษาที่ 4 การร้องเรียนกรมการขนส่งทางบก กรณีขอใบอนุญาตขับรถ

กรณีศึกษานี้เป็นกรณีที่นํามาจากเรื่องร้องเรียนของกรมการขนส่งทางบก เป็นเรื่องร้องเรียน
ของนายศิริชัย เจสดุ ซึ่งเป็นบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี โดยมีประเด็นการร้องเรียน ดังนี้
“เนื่องด้วย ข้าพเจ้า นายศิริชัย เจสดุ ได้เคยส่งเรื่องร้องเรียนและข้อสงสัยจํานวน 5 ข้อ ไปยัง
สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ลิดรอนสิทธิบุคคลผู้ที่มีอาการ
ตาบอดสีในการขอมีใบอนุญาตขับรถ ตามความในเรื่องร้องเรียนที่ นร. 01530021035 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน

2553 ซึ่งสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องร้องเรียนนี้ ไปยังกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่ง
ทางบกตามลําดับ และต่อมากรมการขนส่งทางบกก็ได้ส่งหนังสือเลขที่ คค 0419.2/2587 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์
2554 ชี้แจงไปยังปลัดกระทรวงคมนาคมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การทดสอบผู้ขอรับ

ใบอนุญาตขับรถ โดยจะทําการศึกษาพัฒนากระบวนการออกใบอนุญาตขับรถตั้งแต่การทดสอบสายตาบอดสี
ทดสอบภาคทฤษฎี และทดสอบขับรถ เพื่อยกระดับมาตรฐานผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถให้สามารถขับรถให้เกิด
ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนมากขึ้น และผลการดําเนินการเป็นประการใดจะรายงานให้กระทรวงคมนาคม
ทราบต่อไป

นับตั้งแต่บัดนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เคยได้รับทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจากกระทรวงคมนาคม
และกรมการขนส่งทางบกอีกเลย จนกระทั่งเมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ข้าพเจ้าจึงได้รับทราบข่าวว่า
กรมการขนส่งทางบกได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มประกาศใช้ในวันที่
1 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบดูพบว่ามีการแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีประเด็นหลักคือ

เพิ่มการอบรมจาก 2 ชั่วโมงเป็น 4 ชั่วโมง สําหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถชั่วคราว และหากต้องการต่อใบอนุญาต
ขับรถ 5 ปี ก็จะต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย ในส่วนของการทดสอบตาบอดสีก็เปลี่ยนจากการอ่านสี