Page 75 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 75
บทที่ 4
ผลการวิจัย
การศึกษาวิจัย เรื่อง “ปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี”
ในครั้งนี้ คณะผู้วิจัยนําเสนอผลการศึกษาวิจัยแยกตามวัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัย ออกเป็น 4 หัวข้อ ดังนี้
(1) สภาพปัญหาและข้อจํากัดของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี ในด้านการศึกษา การประกอบ
อาชีพ และการใช้ชีวิตประจําวัน
(2) หลักการทางด้านสิทธิมนุษยชน และแนวความคิดเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
ของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
(3) การวิเคราะห์ กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมาตรการทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับข้อจํากัด
หรือข้อสงวนสําหรับบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี ในมิติการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจําวัน
ของประเทศไทยและต่างประเทศและแนวทางในการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ
(4) ทางเลือก ข้อเสนอแนะหรือข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เป็นการเลือก
ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
4.1 สภาพปัญหาและข้อจ ากัดของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีในด้านการศึกษา การประกอบ
อาชีพ และการใช้ชีวิตประจ าวัน
จากการศึกษาวิจัยด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เอกสาร การสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์
และการจัดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาและข้อจํากัดของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
ในด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจําวัน มีรายละเอียดของผลการศึกษาดังต่อไปนี้
4.1.1 ผลการศึกษาจากการวิเคราะห์เอกสาร
จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์เอกสาร หนังสือร้องเรียน และการแสดงความคิดเห็น
ในเว็บไซต์ พบว่ายังมีกรณีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีอยู่หลายกรณี โดยมีกรณีศึกษาที่
สําคัญ ดังนี้
กรณีศึกษาที่ 1 การขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์
จากคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองกระทําการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดย
ผู้ฟูองคดียื่นคําขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ต่อสํานักงานขนส่งจังหวัด และได้เข้ารับการทดสอบสายตาบอดสี
ตามที่กําหนดในส่วนที่ 1 ข้อ 20 (3) ของระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการอบรมและทดสอบผู้ขอรับ
ใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ.2549 โดยวิธีการดูสีเขียว สีแดงและสีเหลืองจากแผ่นทดสอบ
ในระยะห่างจากแผ่นทดสอบในระดับสายตาไม่น้อยกว่า 3 เมตร แล้วอ่านสีตามที่เจ้าหน้าที่กําหนดสีละ 3 ครั้ง
หากอ่านได้ถูกต้องสองในสามครั้งให้ถือว่าผ่านการทดสอบ แต่ปรากฏว่าผู้ฟูองคดีไม่ผ่านการทดสอบ ผู้ฟูองคดี
จึงได้ร้องเรียนกรณีดังกล่าวต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2549 ว่า