Page 146 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 146

137



                                           กลุ่มบุคคลที่ได้รับความคุ้มครอง ปรากฏในมาตรา 4287 ให้ความคุ้มครองมิให้
                  มีการเลือกปฏิบัติ 9 เหตุ 1) อายุ (Age) 2) ความพิการทางกายหรือจิตใจ (Disability) 3) ผู้แปลงเพศ (Gender
                  reassignment) (4) การสมรสและความสัมพันธ์ทางแพ่ง (Marriage and civil partnership) 5) การตั้งครรภ์

                  และความเป็นแม่ (Pregnancy and maternity) 6) เชื้อชาติ (Race) 7) ศาสนาหรือความเชื่อ (Religion or
                  belief) 8) เพศ (Sex) 9) รสนิยมทางเพศ (Sexual orientation)
                                           พระราชบัญญัติความเสมอภาค (Equality Act 2010) ใช้บังคับครอบคลุมถึง
                  การเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน การศึกษา การขายสินค้าหรือให้บริการ รวมถึงสโมสรส่วนตัวและส่วนราชการ
                  (Public bodies) โดยเฉพาะในการจ้างงานนั้น กฎหมายฉบับนี้ให้ความคุ้มครองการรับสมัครงาน เวลาทํางาน

                  การจ่ายค่าจ้าง  และผลประโยชน์เกี่ยวกับการทํางาน  การให้การอบรม  การเลื่อนตําแหน่ง  และการโยกย้าย
                  การเกษียน  นโยบายในการทํางาน  การฝึกอบรม  แม้ว่าในการจ้างงานนั้นจะมีการทําสัญญากันหรือไม่ก็ตาม
                  นอกจากนี้ยังบังคับใช้กับนายจ้างไม่ว่าจะมีลูกจ้างกี่คนก็ตาม ไม่ว่าการเลือกปฏิบัติจะเกิดขึ้นในส่วนใดของงาน

                                         2) มาตรการทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติของประเทศสหรัฐอเมริกา
                                           มาตรการทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติในประเทศสหรัฐอเมริกา
                  ปรากฏอยู่ในกฎหมายสิทธิพลเมืองอเมริกา (The American Civil Right Act) หมวด 7 ซึ่งมีทั้งหมด 18 มาตรา
                  เริ่มตั้งแต่มาตรา 701-718 โดยมีวัตถุประสงค์ของกฎหมายคือเพื่อคุ้มครองลูกจ้างไม่ให้ถูกเลือกปฏิบัติจากนายจ้าง

                  การเลือกปฏิบัติในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การเลือกปฏิบัติโดยตรงและการ
                  เลือกปฏิบัติโดยอ้อม โดยการพิจารณาการเลือกปฏิบัติโดยตรงนั้น หมายถึงการปฏิบัติที่แตกต่างกันในสถานการณ์
                  เดียวกัน  หรือการปฏิบัติที่เหมือนกันในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน  ตามที่ปรากฏในหมวด  7  (Title  VII)  ของ
                  กฎหมายสิทธิพลเมืองอเมริกา 1964 (The American Civil Right Act of 1964) ปรากฏในข้อ 703 (a)

                                           “การกระทําของนายจ้างดังต่อไปนี้เป็นการปฏิบัติในการจ้างงานที่ผิดกฎหมาย
                                           (1)  ปฏิเสธการจ้างงาน หรือไล่ออก หรือเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดในการจ่าย
                  ค่าตอบแทน การกําหนดข้อตกลง สภาพการทํางาน หรือการมอบสิทธิพิเศษในการทํางาน
                                           (2)  จํากัด  แบ่งแยก  แยกหมวดหมู่ลูกจ้างหรือผู้สมัครเข้าทํางานโดยวิถีทางใด

                  ซึ่งเป็นการกีดกัน หรือมีแนวโน้มเป็นการกีดกัน ต่อโอกาสในการทํางาน หรือเป็นผลกระทบต่อสถานะการเป็น
                  ลูกจ้าง เพราะเชื้อชาติ สีผิว สัญชาติ เพศ หรือถิ่นกําเนิดของบุคคลนั้นๆ...”
                                           ในการกล่าวอ้างว่าการกระทํานั้นเป็นการเลือกปฏิบัติ  ผู้กล่าวอ้างต้องพิสูจน์

                  ให้เห็นถึงเหตุของนายจ้างในการเลือกปฏิบัติ ว่ามีเหตุเนื่องมาจากเชื้อชาติ สีผิว สัญชาติ เพศ หรือถิ่นกําเนิด
                  โดยการพิจารณาคดี ศาลได้จําแนกมูลเหตุจูงใจของนายจ้างที่ก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยตรง เช่น การเลือก
                  ปฏิบัติเพราะการตั้งครรภ์ และในการเลือกปฏิบัตินั้น อาจเกิดจากมูลเหตุจูงใจหลายๆ เหตุแม้จะมีมูลเหตุจูงใจ
                  ที่ถูกกฎหมาย ประกอบกับมูลเหตุจูงใจที่ผิดกฎหมาย การกระทําเช่นนั้นก็เป็นการเลือกปฏิบัติโดยตรง ถึงแม้ว่า
                  การกระทําของนายจ้างจะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยตรง แต่ศาลก็เปิดโอกาสให้นายจ้างอ้างคุณสมบัติที่เหมาะสม

                  กับงานโดยแท้ หรือ Bona Fide Occupational Qualification (BFOQ) เพื่อให้การเลือกปฏิบัติโดยตรงนั้น
                  ไม่เป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย ต่อมามีการพัฒนารูปแบบการเลือกปฏิบัติโดยอ้อมขึ้น เนื่องจากการที่ปฏิบัติ
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151