Page 229 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 229

พร้อมมีมติให้ราษฎรนําพยานหลักฐานไปแสดงต่อที่ดินจังหวัดและให้องค์การบริหารส่วนตําบล
                       ไปดําเนินการรังวัดเขต”
                              “ที่สาธารณประโยชน์หนองโครอย จังหวัดสุรินทร์ : ที่ดินมีหลักฐานครอบครอง ส.ค.1

                              พ.ศ. 2530 กํานันนํารังวัดแนวเขตเพื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงเลขที่ 36742 เนื้อที่
                       23 ไร่ 3 งาน 93 ตารางวา ครอบทับที่ทํากินทั้งผืนของผู้ร้องและชาวบ้านอีก 7 แปลง ผู้ร้องไม่ทราบถึง
                       การประกาศการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง จึงไม่ได้คัดค้าน กํานันห้ามไม่ให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่

                       ที่ทํากินเดิม แต่ให้ตนเองและพวกใช้  ต่อมากํานันนํารังวัดแนวเขตเพื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับ
                       ที่หลวงเลขที่ 43743 เนื้อที่ 576 ไร่ 4 ตารางวา ตามทะเบียนสงวนหวงห้าม พ.ศ. 2468 ครอบทับที่
                       สาธารณประโยชน์ 36742 ทั้งผืน

                              เจ้าพนักงานที่ดินฯ สาขาปราสาท บันทึกความเห็นว่า พิจารณาจากสภาพทางกฎหมาย
                       การให้ถ้อยคําของราษฎรผู้สูงอายุ และอดีตกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ทําเลเลี้ยงสัตว์ทุ่งโครอยที่ขึ้นทะเบียนไว้เมื่อ
                       พ.ศ. 2468 มีเนื้อที่ 3,000 ไร่ อยู่ทางทิศใต้ของหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงเลขที่ 43743  บริเวณ

                       บ้านโชคบรันพัฒนาขึ้นไปจนถึงหลักไม้แก่น
                                                                                ั
                              กระทรวงมหาดไทยมีคําสั่งที่ 3/2542 แต่งตั้งคณะทํางานเพื่อแก้ไขปญหาการบุกรุกที่สาธารณ ประโยชน์
                       โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทํางานพิจารณาแล้วยืนยันว่าการออกหนังสือสําคัญ

                       สําหรับที่หลวง ถูกต้องตามตําแหน่งในทะเบียนที่สาธารณประโยชน์
                                                          ั
                              พ.ศ. 2544 คณะอนุกรรมการแก้ไขปญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐระดับจังหวัด มีมติโดยไม่ได้รับทราบ
                       ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของที่ดินสาขาปราสาท ด้วยกรณี

                       เป็นการที่ที่ดินสาขาตั้งคณะทํางานขึ้นภายในและมิได้รายงานผ่านที่ดินจังหวัด ให้ยกเลิกคําร้อง
                       ขอออกหนังสือรับรองการทําประโยชน์และเพิกถอน ส.ค.1 ให้เหตุผลว่าผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ
                       ที่ดินของผู้ร้องเป็นหนองนํ้า จึงเป็นที่ดินที่สงวนหวงห้ามไว้ให้พลเมืองใช้ร่วมกัน”
                                                    ๊
                              “ที่สาธารณประโยชน์หนองปุก จังหวัดบุรีรัมย์ :  หนองนํ้าสาธารณประโยชน์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
                       ขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งนํ้าสาธารณะ
                              พ.ศ. 2539 องค์การบริหารส่วนตําบลมีโครงการขุดลอกแหล่งนํ้าเพื่อใช้ทํานํ้าประปาในหมู่บ้าน

                       ชาวบ้านหนึ่งรายอ้างตนมีเอกสารสิทธิในที่ดินหนังสือรับรองการทําประโยชน์ น.ส.3 เลขที่ 126
                       เมื่อ พ.ศ. 2516 สืบตาม ส.ค.1 ออกให้เมื่อ พ.ศ. 2498 ทําให้องค์การบริหารส่วนตําบลไม่สามารถ
                       ดําเนินการขุดลอกได้ ระหว่างดําเนินการตรวจสอบชาวบ้านรายนั้นนําดินมาถมหนองนํ้าจนมีสภาพตื้นเขิน

                       และประกาศห้ามชาวบ้านเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาท
                              ผู้ใหญ่บ้านยื่นคัดค้านให้เหตุผลว่าเป็นที่ดินทับซ้อนที่ดินสาธารณประโยชน์ ชาวบ้านยื่นหนังสือถึง

                       องค์การบริหารส่วนตําบลให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
                              องค์การบริหารส่วนตําบลยื่นเรื่องต่ออําเภอ พ.ศ. 2543 อําเภอมีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ
                       สอบสวนข้อเท็จจริง ได้ความว่าถ้อยคําของผู้กล่าวอ้างขัดแย้งแนวเขตตามหนังสือรับรองการ
                       ทําประโยชน์ น.ส.3





                                                                                                      6‐20
   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233   234