Page 228 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 228

เอกสารหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงที่รังวัดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ปรากฏว่าชาวบ้าน
                       คัดค้าน”
                              “ที่สาธารณประโยชน์โนนด่านขวาง จังหวัดชัยภูมิ : ที่ดินมีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์และการ

                       ครอบครองทําประโยชน์ โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทําประโยชน์ ใบเสียภาษีบํารุงท้องที่
                              พ.ศ. 2546 องค์การบริหารส่วนตําบลดงกลางยื่นคําขอรังวัดที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อ
                       ออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงโนนด่านขวางสาธารณประโยชน์ ทับที่ทํากินชาวบ้าน ชาวบ้านคัดค้าน

                              ที่ดินสาธารณประโยชน์โนนด่านขวางแบ่งเป็น 5 แปลง 1. แปลงโนนโรงเรียน - ออกหนังสือสําคัญ
                       สําหรับที่หลวงเมื่อ พ.ศ. 2526 แต่ที่ดินบอกว่าไม่มีทะเบียน ผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าไม่มีการรังวัด
                       2. แปลงโคกนกทาออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงเมื่อ พ.ศ. 2529 ไม่ได้ระบุว่ามีการประกาศหวงห้าม

                       ตั้งแต่เมื่อไร เนื้อที่และทิศของพื้นที่ที่ระบุในทะเบียนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ 3. แปลงโนนด่านขวาง
                       ทิศเหนือ ตามทะเบียนมีแนวเขตตรงกันกับที่สาธารณประโยชน์โคกนกทาทุกประการ 4. แปลงโนนด่านขวาง
                       ทิศใต้ ตามทะเบียนไม่มีระบุประกาศสงวนหวงห้ามไว้เมื่อใด ใครประกาศ ในทะเบียนเดียวกันแบ่งเป็น

                       สองแปลง 5. แปลงกุดแคน เป็นทําเลเลี้ยงสัตว์ ไม่มีหลักฐานที่ดินเดิม
                                                                                                      ั
                              29 ธันวาคม 2546 เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนัดหมายผู้มีที่ดินข้างเคียงรังวัดแนวเขตและปกเขต
                       ที่ดินสาธารณประโยชน์ ชาวบ้านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง จึงคัดค้านและเสนอให้อําเภอ

                       ตรวจสอบโดยชาวบ้านมีส่วนร่วม
                              พ.ศ. 2548 อําเภอรับรายงานจากองค์การบริหารส่วนตําบลว่ามีชาวบ้านเข้าครอบครองปลูก
                       สร้างอาคารชั่วคราวในที่พิพาท ชาวบ้านอีกกลุ่มเผาอาคารที่พักอาศัยนั้น เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรง

                       องค์การบริหารส่วนตําบลและกํานันผู้ใหญ่บ้านจัดประชาคมตําบล ชาวบ้านเข้าร่วม 1,000 คน มีมติให้
                       ผู้ครอบครองที่พิพาทออกจากเขตพิพาทและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อําเภอทําความเข้าใจกับชาวบ้าน
                       เพื่อไม่ให้มีการกระทําที่รุนแรงและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาว่ารุกลํ้าที่พิพาท

                       ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อให้เกิดความชอบธรรม อําเภอให้ชาวบ้านหยุดเข้าทํากินในที่พิพาท
                       ชั่วคราวและดําเนินการทางกฎหมายต่อผู้บุกรุกเพิ่มเติมตามนโยบายผ่อนผันให้ผู้ทํากินอยู่เดิมเท่านั้น”
                                                    ่
                              “ที่สาธารณประโยชน์ดงเสือปูตา จังหวัดอุบลราชธานี : ที่ดินมีการครอบครองทําประโยชน์ส่วนใหญ่
                       ไม่มีเอกสารสิทธิ มีเพียงบางแปลงมีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ (โฉนดที่ดิน) องค์การบริหารส่วนตําบล
                       ดําเนินการรังวัดแนวเขตโดยไม่มีหน่วยงานใดสามารถระบุแนวเขตและขนาดเนื้อที่ที่ถูกต้องชัดเจน
                       เพื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง ทับที่ทํากิน ราษฎร 138 รายคัดค้าน

                              ผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมรับแจ้งหนังสือยื่นขอออกเลขประจําบ้าน องค์การบริหารส่วนตําบลออกหนังสือ
                                      ้
                       ระงับไม่ให้การไฟฟาส่วนภูมิภาคขยายแนวเขตเข้ามาในที่ดินพิพาท
                                                ั
                              อนุกรรมการแก้ไขปญหาความยากจนด้านที่ดินมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการให้เร่งประชุม
                                         ั
                                                                                             ั
                       คณะกรรมการแก้ไขปญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐระดับจังหวัด คณะกรรมการแก้ไขปญหาการบุกรุก
                       ที่ดินของรัฐระดับจังหวัด แนะนํากรณีชาวบ้านที่ไม่มีหลักฐานด้านเอกสารแต่มีหลักฐานอื่น ๆ เช่น
                       การสืบสายตระกูล การเป็นชุมชน หรือการครอบครองที่ดินว่าได้มาอย่างไร พร้อมทั้งแผนที่ชัดเจน

                       สามารถอ้างอิงได้ ซึ่งทางรัฐก็ต้องหาหลักฐานการได้มาซึ่งที่ดินของตนเองมาเทียบเคียงตรวจสอบกัน


                                                                                                      6‐19
   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233