Page 137 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 137

่
                       การดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากปา รวมทั้งการจัดการนํ้าระบบเหมืองฝายซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการ
                                                ั
                       ทรัพยากรบนฐานความรู้ภูมิปญญาของชุมชนบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่
                                                                                          ่
                                 ่
                       หน่วยงานปาไม้ในพื้นที่โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดินปาไม้และหน่วยงาน
                                                                                     ่
                                                                    ั
                              ่
                       ส่งเสริมปาชุมชนก็มีความเข้าใจในองค์ความรู้และภูมิปญญาในการจัดการปาของชุมชน เอกสารของ
                                            ่
                                                                                                      ่
                                ่
                       สํานักงานปาชุมชน กรมปาไม้จํานวนมาก็ยืนยันข้อมูลเหล่านี้ แต่เนื่องจากบทบัญญัติในกฎหมายปาไม้
                                                                                          ่
                                                                                                   ่
                       ทุกฉบับ ได้ให้อํานาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมการบริหารจัดการปาแต่เพียงฝายเดียว
                                ่
                       กฎหมายปาไม้เกิดขึ้นมานานก่อนแนวคิดสิทธิชุมชนจะเป็นที่ยอมรับและเขียนไว้ในกฎหมาย
                                                                             ่
                       รัฐธรรมนูญจึงไม่ได้รองรับสิทธิชุมชน ทําให้สิทธิชุมชนในแวดวงปาไม้จึงถูกให้ความสําคัญเป็นเพียง
                                                                                       ่
                       แนวความคิดเท่านั้น ตราบใดที่การใช้สิทธิของชุมชนไม่กระทบกฎหมายปาไม้มาก ๆ พนักงาน
                       เจ้าหน้าที่ก็จะทําเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่เมื่อต้องกระทบกับอํานาจตามกฎหมาย เช่นการทําไร่หมุนเวียน
                                  ่
                                                                                             ่
                       การตัดไม้ในปาไปใช้สอย หรือการล่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร ซึ่งทวนกระแสการอนุรักษ์ปาแบบตะวันตก
                       หรือกระทบกับนโยบายของรัฐ ชุมชนก็จะถูกกระทําโดยวิธีจํากัดการใช้สิทธิ เช่นถูกจํากัดไร่ไม่ให้ใช้
                       ระบบหมุนเวียนพื้นที่เพาะปลูก หรือห้ามเผาเศษไม้ปลายไม้เพื่อเตรียมพื้นที่ทําไร่ และยิ่งในช่วงกระแส
                                                                             ่
                       สิ่งแวดล้อมและกระแสโลกร้อนแรง ๆ และรัฐมีนโยบายปลูกฟื้นฟูปาโครงการขนาดใหญ่ทั้งของรัฐและ
                                                                                     ่
                       ภาคเอกชน ชุมชนก็มักจะได้รับผลกระทบสูญเสียที่ทํากินจากโครงการปลูกปาทั้งหลาย
                              2) ปัญหาจากเนื้อหากฎหมาย
                                               ่
                                                      ั
                              กฎหมายที่เกี่ยวกับปาไม้มีปญหามากเพราะสาระของกฎหมายไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานความจริง
                                                                              ่
                       แต่มีสมมุติฐานบนมายาคติหลายประการ เช่น  คนจนมักทําลายปา  การปราบปรามอย่างเข้มงวด
                                           ่
                                    ่
                                                                                           ่
                       รุนแรงจะรักษาปาไว้ได้ ปาที่เหลืออยู่เพราะเจ้าหน้าที่รัฐรักษา รัฐเท่านั้นที่จะรักษาปาไว้ได้ จึงทําให้ตัว
                       บทกฎหมายไม่เป็นธรรม เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจชี้ผิดชี้ถูกเองค่อนข้างมาก
                                                              ่
                              การออกกฎหมายที่เกี่ยวกับที่ดินและปาไม้ที่ดีและนําไปสู่การปฏิบัติได้ อย่างน้อยต้องอยู่บน
                       หลักการสําคัญดังต่อไปนี้
                                                                            ่
                              1) ยึดมั่นในเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ปล่อยให้ฝายการเมืองเข้ามาใช้ช่องว่างหา
                       ผลประโยชน์
                                                                                          ่
                              2) ต้องมั่นคงในหลักการด้านสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ว่าที่ดินกับปาไม้เป็นทรัพยากร
                       พื้นฐานที่สําคัญของชีวิตที่มนุษย์ทุกคนต้องเข้าถึงและใช้ประโยชน์เพื่อการดํารงชีพได้อย่างเหมาะสม
                                                                                                         ่
                              3) ต้องเน้นการกระตุ้นจูงใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนเกิดความหวงแหนในที่ดินปา
                       และฐานทรัพยากรและรักษามันเท่าชีวิตมากกว่าการเน้นการให้รางวัลและลงโทษ
                              4) ต้องให้ความสําคัญอย่างเท่าเทียมกันกับกระบวนการพัฒนากฎหมาย เนื้อหากฎหมาย

                       และกลไกการขับเคลื่อนกฎหมายให้ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน (เพิ่มศักดิ์ มกรา
                       ภิรมย์, 2553)
                              ประเด็นสําคัญทางกฎหมายที่ควรปรับปรุงแก้ไขมีดังนี้
                                                                                  ่
                                                                                                     ่
                              การนิยามและกําหนดพื้นที่ป่า โดยบทบัญญัติของกฎหมายปาไม้ต่างนิยามพื้นที่ “ปา” ใน
                       ความหมายเดียวกัน คือ ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลใดได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ทําให้แม้ชุมชนจะมี
                       หลักฐานการครอบครองที่ดินมาก่อนที่ชัดเจนเพียงใด แต่หากไม่มีการดําเนินการโดยชอบตาม



                                                                                                      5‐65
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142