Page 136 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 136

่
                       แล้วได้ใช้ที่ดินปาไม้ไปในทางอื่น เช่น ปลูกสร้าง รีสอร์ท หรือทําสนามกอล์ฟ เป็นต้น ซึ่งถือว่าผิด
                       หลักเกณฑ์การเช่าที่ บทบัญญัติมาตราที่ 20 กําหนด ไว้ 2 ประเภท คือ
                                        ่
                              1. ต้องเป็นปาเสื่อมโทรมที่ไม่สามารถกลับฟื้นคืนดีตามธรรมชาติได้ ตามมาตรา 16 ทวิ และ
                                                           ่
                                                                             ่
                              2. การเช่านั้นต้องทําเพื่อการบํารุงปา หรือปลูกสร้างสวนปา หรือไม้ยืนต้น
                               ั
                                                                     ่
                              ปญหาจากบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการปาไม้พบว่า แนวคิดที่ให้สิทธิกับรัฐและเอกชน
                       โดยไม่ยอมรับสิทธิในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันของราษฎร มีการถกเถียงกันมานาน ดัง
                       แนวคิด “โศกนาฏกรรมของทรัพยากรร่วม” (The Tragedy of the Commons) ที่นําเสนอตัวอย่างโดย
                       Garrett Hardin ในปี 1968 ที่เชื่อว่าหากปล่อยให้ใช้ทรัพยากรได้อย่างไม่จํากัด (Open Access to All)
                       ดังกรณีตัวอย่างทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ท้ายที่สุดทุ่งหญ้าก็จะถูกใช้ประโยชน์เกินกว่าที่จะฟื้นฟูตัวเองได้และ

                       เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว และ “ตรรกะว่าด้วยการกระทําร่วม ” (The Logic of Collective Action)
                       ที่ว่าในความร่วมมือใด ๆ ก็ตามเพื่อผลประโยชน์ของสังคมแล้ว จะมีคนที่ไม่ทําอะไรและเอาประโยชน์
                       ฟรี ๆ (Free  Rider)  จากความร่วมมือดังกล่าวเสมอ จึงไม่มีใครอยากทําเพื่อสังคม  ผลก็คือ แนว

                       ทางการบริหารจัดการทรัพยากรจึงมุ่งไปสู่ข้อสรุปว่า ต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรงในการกํากับดูแล
                       ทรัพยากร เพื่อไม่ให้ทรัพยากรถูกใช้มากเกินไป ซึ่งหากไม่ใช่การบริหารจัดการแบบสินค้าเอกชนก็ควร
                       เป็นแบบสินค้าสาธารณะ และนํามาสู่ข้อสรุปที่ว่าถ้าไม่ใช่การดูแลควบคุมโดยตรงจากรัฐ ก็ต้องเป็นการ

                       ให้เอกชนบริหารจัดการ (Privatization)  นั่นเอง ตัวอย่างประเทศไทยที่ชัดเจนคือ แนวนโยบายการ
                                                                                      ่
                       บริหารจัดการทรัพยากรในลักษณะที่รัฐเข้าไปจัดการเอง  ในรูปแบบของปาสงวนแห่งชาติ อุทยาน
                                               ่
                       แห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ปา หรือกําหนดกรรมสิทธิ์ให้เอกชนเข้าไปครอบครองและบริหารจัดการใน
                                                                     ่
                                      ่
                       รูปแบบสัมปทานปาไม้ สัมปทานเหมืองแร่ หรือให้เช่าที่ปาสงวนระยะยาว เป็นต้น แต่ Illinor  Ostrom
                       โต้แย้งว่า แนวทางการควบคุมโดยตรงจากรัฐ มาจากความเชื่อที่ว่า รัฐควรจะมีบทบาทเป็นแรงขับ
                       ภายนอกให้บุคคลเลือกทางที่ถูกต้องและลงโทษหากมีการทําผิดกติกา แนวทางนี้จะประสบผลเลิศก็

                       ต่อเมื่อรัฐมีข้อมูลอย่างสมบูรณ์และสามารถบังคับใช้กฎกติกาได้อย่างแม่นยําและทั่วถึง ซึ่งในความจริง
                       อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะรัฐไม่มีข้อมูลที่ดีพอ บังคับใช้กติกาได้ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะกลัวเสีย
                       คะแนนนิยม หรือกลัวกระทบนายทุน จนท้ายที่สุดแล้วย่อมไม่มีใครทําตามกติกาและทรัพยากรก็ตกอยู่

                       ในสภาพเปิดเสรีไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจน และจบลงด้วยโศกนาฏกรรมของทรัพยากรร่วมเช่นเดิม ส่วน
                       แนวทางการให้สัมปทานกับเอกชนโดยเชื่อว่าเอกชนจะมีแรงจูงใจในการดูแลรักษาระบบทรัพยากรนั้น
                       ให้อยู่ในสภาพดี เพราะจะต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนี้ไปอีกนาน จึงไม่ต้องการให้เสื่อมโทรมเร็ว

                       เกินควร แต่ก็ไม่อาจเกิดผลเลิศถ้าทรัพยากรบางอย่างมีความจํากัด เช่น หากธรรมชาติของทรัพยากร
                       ร่วมมีความไม่แน่นอน เอกชนที่จะต้องแบกรับความเสี่ยงแทน รวมทั้งการให้สัมปทานกับเอกชนอาจ

                       ไปขัดกันหรือส่งผลกระทบภายนอก (Externalities)  กับวิถีการดําเนินชีวิตของชาวบ้านในชุมชน และ
                       กลายเป็นความขัดแย้ง ดังนั้น ทั้งการควบคุมโดยตรงจากรัฐและการให้สัมปทานกับเอกชนก็อาจไม่
                       ช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรร่วมบรรลุผลเลิศแต่อย่างใด
                              แนวคิดเรื่องสิทธิชุมชน

                                                                                                     ่
                                                         ่
                              ผลจากแนวคิดแยกคนออกจากปาและแนวคิดความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการปาและ
                       ทรัพยากรเพื่อมุ่งประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจทําให้การรับรู้และเคารพในสิทธิของชุมชนท้องถิ่นใน


                                                                                                      5‐64
   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141