Page 48 - ศัพท์สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 48

เพราะวิธีการปฏิบัติงานในแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกันในรายละเอียด
            อันอาจจะเนื่องมาจากกฎหมาย ทรัพยากร เทคโนโลยี หรือสภาพแวดล้อมอื่น
            สิ่งที่เป็นเจตนารมณ์ในการวางหลักการร่วมกันเพื่อพัฒนาการคุ้มครอง
            สิทธิมนุษยชนเรื่องนั้น  จึงกลั่นกรองเฉพาะสิ่งจำาเป็นที่เป็นหลักการมาใช้
            เป็นเครื่องชี้แนวทาง  (ดู  BODY  OF  PRINCIPLES  FOR  THE
            PROTECTION  OF  ALL  PERSONS  UNDER  ANY  FORM  OF
            DETENTION OR IMPRISONMENT)




              BREACH OF CONFIDENCE   การล่วงละเมิดความลับ

                  หลักกฎหมายคอมมอนลอว์ที่กำาหนดให้บุคคลที่ใช้พฤติการณ์ที่ไม่สมควร
            สืบเสาะแสวงหา หรือเข้าไปล่วงรู้ข้อมูลสารสนเทศของบุคคลอื่นที่ไม่ประสงค์
            และเป็นเหตุทำาให้บุคคลผู้ครอบครองข้อมูลเสียประโยชน์ บุคคลที่กระทำาการ
            ล่วงรู้ความลับต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง  ข้อมูลที่เป็นความลับนั้น
            คือข้อมูลที่ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลไม่ประสงค์เปิดเผยต่อ
            สาธารณะ  ข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นข้อมูลของเอกชน  หรือข้อมูลราชการ
            ก็ได้

                  ความรับผิดของบุคคลเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลสารสนเทศใดได้ล่วงรู้โดยบุคคล
            บุคคลที่เป็นเจ้าของความลับ สามารถเรียกร้องให้ฝ่ายที่ทำาให้ข้อมูลสารสนเทศ
            ใดได้ล่วงรู้โดยบุคคลอื่นใดได้รับผิดทางแพ่งได้
                  เดิมกฎหมายคอมมอนลอว์ของอังกฤษ  กำาหนดความรับผิดทางแพ่ง
            เฉพาะกรณีที่ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลต้องเสียประโยชน์จากข้อมูลที่เป็นความลับ
            ซึ่งหลักการนี้ได้พัฒนาไปอย่างมากในเรื่องความลับทางการค้า  สิทธิบัตร
            โดยที่ไม่ได้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะของ “สิทธิในความเป็นส่วนตัว”
            หรือ “the Right to Privacy”  ดังนั้น สิทธิในความเป็นส่วนตัวของบุคคลจึงไม่ได้รับ
            การคุ้มครองโดยกฎหมาย เป็นเหตุให้บุคคลที่ถูกล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว
            นำาคดีไปฟ้องร้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนจำานวนมาก อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำาให้
            มีการผลักดันให้ประเทศอังกฤษตราพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1998
            (พ.ศ. 2541) (Human Rights Acts) ซึ่งเป็นการรับเอาอนุสัญญายุโรปว่า
            ด้วยสิทธิมนุษยชนมาเป็นกฎหมายภายใน  เพื่อให้มีบทบัญญัติเป็นกฎหมาย

                                                                        37
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53