Page 80 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 80
๖๕
เสียหายต่อประเทศชาติหรือต่อประโยชน์ที่ส่าคัญของเอกชน และก่าหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิส่วน
บุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของราชการ
(๕) พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.
๒๕๕๑ (มาตรา ๔๐)
มีสาระส่าคัญเป็นการก่าหนดให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากรายการที่
ออกอากาศเป็นเท็จ หรือละเมิดสิทธิเสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัว หรือความเป็นอยู่ส่วน
บุคคล อาจร้องเรียนต่อคณะกรรมการได้
(๖) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. ๒๕๔๕ (มาตรา ๒๐)
มีสาระส่าคัญเป็นการก่าหนดให้บริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยหรือให้ข้อมูลแก่
สมาชิกหรือผู้ใช้บริการที่ประสงค์จะใช้ข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อและการออกบัตร
เครดิต โดยในการเปิดเผยหรือให้ข้อมูลดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนทุกครั้ง
เว้นแต่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่
คณะกรรมการก่าหนด
(๗) พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ (มาตรา ๒๗)
ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด
ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะท่าให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง
เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่าหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
(๘) ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาทนายความ พ .ศ. ๒๕๒๙
(ข้อ ๑๑)
มีสาระส่าคัญเป็นการก่าหนดห้ามมิให้ทนายความ เปิดเผยความลับของลูกความ
ที่ได้รู้ในหน้าที่ของทนายความ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกความนั้นแล้ว หรือโดยอ่านาจศาล
๓.๑.๒ สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ประกอบด้วย กฎหมายที่
เกี่ยวข้อง ดังนี้
(๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๒
มีสาระส่าคัญเกี่ยวกับการรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิต
และร่างกายของบุคคล ดังนี้
(ก) การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้าย
หรือไร้มนุษยธรรม จะกระท่ามิได้แต่การลงโทษตามค่าพิพากษาของศาลหรือตามที่กฎหมายบัญญัติ
ไม่ถือว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม
(ข) การจับและการคุมขังบุคคล จะกระท่ามิได้ เว้นแต่มีค่าสั่งหรือ
หมายของศาลหรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ การค้นตัวบุคคลหรือการกระท่าใดอันกระทบต่อ
สิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง จะกระท่ามิได้เว้นแต่มีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ