Page 24 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 24

๙


                                     ส่าหรับการพิจารณาว่าขอบเขตที่รัฐจะเข้าแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพของปัจเจก

                   บุคคล จะกระท่าได้เพียงใดนั้น มีเกณฑ์ส่าคัญที่ใช้ในการพิจารณาได้แก่ หลักการจ่ากัดสิทธิและเสรีภาพ
                   เท่าที่จ่าเป็นหรือหลักพอสมควรแก่เหตุ หรือหลักความได้สัดส่วน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หลักห้ามมิให้

                   กระท่าเกินกว่าเหตุ ซึ่งเป็นหลักที่มีความส่าคัญอย่างยิ่งในการน่ามาใช้ควบคุมการใช้อ่านาจของรัฐ

                   ที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยที่มาของหลักการดังกล่าวนั้น มาจากหลักกฎหมาย
                   ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และเป็นหลักกฎหมายที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

                   ในสหภาพยุโรป
                                     หลักความได้สัดส่วน เป็นหลักที่ถือว่ามีความส่าคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

                   ต่อศาลรัฐธรรมนูญของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นับตั้งแต่ทศวรรษที่ ๑๙๕๐ ศาลรัฐธรรมนูญสหพันธ์
                   ได้น่าหลักการดังกล่าวมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาในกรณีที่มีการจ่ากัดสิทธิและเสรีภาพของ

                   ประชาชน หลักความได้สัดส่วนนั้นเป็นหลักที่น่ามาใช้เป็นการทั่วไป โดยถือว่าเป็นหลักเกณฑ์

                   ตามรัฐธรรมนูญที่น่ามาใช้ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการกระท่าของรัฐทุกประเภท
                   โดยภาระหน้าที่หลักของหลักความได้สัดส่วนนั้นมิได้มีความหมายมุ่งหมายเฉพาะการจ่ากัดการแทรกแซง

                   ของอ่านาจรัฐเท่านั้น  แต่หากตีความหลักความได้สัดส่วนอย่างถูกต้องแล้ว หลักความได้สัดส่วนนั้น

                   นอกเหนือจากจะเป็นหลักการในทางเนื้อหาที่ห้ามมิให้มีการใช้อ่านาจอย่างอ่าเภอใจแล้วยังเป็นเกณฑ์
                   มาตรฐานที่เป็นสาระส่าคัญในการควบคุมตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญอีกด้วย โดยสาระส่าคัญของ

                   หลักความได้สัดส่วนนั้น มีสาระส่าคัญอยู่ ๓ ประการ คือ

                                             (๑) ความเหมาะสมของมาตรการหรือวิธีการส่าหรับวัตถุประสงค์อันใด
                   อันหนึ่งโดยหลักความเหมาะสม หมายความถึงสภาพการณ์ซึ่งรัฐได้ท่าการแทรกแซงและภายใน

                   สภาพการณ์นั้นรัฐจะต้องค่านึงถึงการท่าให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ก่าหนดไว้ โดยมาตรการนั้นวางอยู่บน
                   สมติฐานที่ได้รับการยอมรับหรือเป็นมาตรการที่ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ้งชัดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุ

                   วัตถุประสงค์ดังกล่าว

                                             (๒) ความจ่าเป็นของมาตรการหรือวิธีการ ศาลรัฐธรรมนูญของสหพันธ์
                   ได้อธิบายหลักความจ่าเป็นว่า มาตรการใดมาตรการหนึ่งจะมีความจ่าเป็นเมื่อไม่สามารถที่จะเลือก

                   มาตรการอื่นใดที่มีผลเช่นเดียวกับมาตรการที่เลือกได้ อีกทั้งมาตรการนั้นเป็นมาตรการที่มีผลกระทบต่อ
                                        ๑๓
                   สิทธิขั้นพื้นฐานน้อยที่สุด  โดยการตรวจสอบความจ่าเป็นของมาตรการอันใดอันหนึ่งนั้น มีเงื่อนไข
                   พื้นฐานอยู่ที่การพิจารณาความเหมาะสมของมาตรการนั้น เฉพาะมาตรการที่มีความเหมาะสมเท่านั้นถึง

                   จะน่าไปสู่การตรวจสอบตามหลักความจ่าเป็น
                                             หลักความจ่าเป็นมีความส่าคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการใช้อ่านาจ

                   มหาชนที่มีผลกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งเคยมีกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในปี ๑๙๖๘ ที่กรุงเบอร์ลิน

                   เจ้าหน้าที่ต่ารวจได้ออกค่าสั่งห้ามมิให้มีการเดินขบวน แต่ก็มีบุคคลกลุ่มเล็กๆ ได้น่าโปสเตอร์แผ่นเล็กๆ



                          ๑๓
                             BVerfGE 30,292 (316);63,88 (115);70,278 (286)
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29