Page 159 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 159
158 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
การวิเคราะห์ข้อโต้แย้งต่างๆ ในความเรียง “ว่าด้วยเรื่องกิโยติน” นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่อง
“เหตุผลลวง” ที่ใช้อธิบายความชอบธรรมของโทษนี้และการวิพากษ์ “อํานาจนิยม” ของรัฐและสังคมฝรั่งเศส
ร่วมสมัย ได้นําเรามาสู่สมมติฐานที่ว่า แท้จริงแล้ว โทษประหารชีวิตนี้ไม่ได้ทําหน้าที่เป็นเครื่องมือในการลด
แรงจูงใจ ในการทําความผิดอย่างที่ผู้สนับสนุนมักจะนํามากล่าวอ้าง กล่าวคือ หน้าที่ในการเป็นตัวอย่างที่มัก
จะถูกใช้เป็นคําอธิบายรองรับฐานความคิดว่าด้วยการปกป้องสังคมนั้นเป็นเพียง “มายาคติ” ที่ถูกสร้างขึ้นมา
เพื่อรองรับความชอบธรรมเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมฝรั่งเศสหลังสงครามโลก ความชอบธรรมของ
โทษนี้ไม่ได้มาจากบทบาทด้านความยุติธรรมของมัน หากแต่มาจากเหตุผลอื่น นั่นก็คือเหตุผลทางประวัติศาสตร์
และทางอุดมการณ์การเมือง
เพื่อที่จะทําความเข้าใจสมมติฐานนี้ เราจําเป็นจะต้องกลับไปพิจารณาบริบททางสังคมการเมืองของ
ฝรั่งเศสในช่วงที่มีการวางรากฐานใหม่ให้กับโทษประหารชีวิต ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในบทนํา การปฏิวัติฝรั่งเศส
69
ได้ทําการเปลี่ยนแปลงกระบวนการในการประหารชีวิต “พลเมือง” จากเดิมที่มีหลายรูปแบบ (ขึ้นอยู่กับ
ลักษณะของโทษและฐานันดรของอาชญากร) ให้เหลือเพียงรูปแบบเดียว รูปแบบใหม่นี้จะเป็นรูปแบบที่
ฝรั่งเศสใช้จนกระทั่งมีการยกเลิกโทษนี้ใน ค.ศ.1981
การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่มีนัยสําคัญ เพราะเป็นหนึ่งในกระบวนการ
“ล้มล้าง “ระบอบเก่า” ที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์และความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนในสังคม ในขณะเดียวกัน
ก็ถือเป็นการ “สถาปนา” รูปแบบ “ใหม่” ของการลงโทษที่อยู่บนฐานของความเท่าเทียมกัน ดังนั้นโทษ
ประหารชีวิตในรูปแบบใหม่นี้จึงเป็นทั้งองค์ประกอบและฐานค้ํายันให้กับหลักการแห่งการปฏิวัติ การเปลี่ยน
แปลงนี้จึงถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการรับรองสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองภายใต้การปกครองใหม่ที่เรียกว่า
“สาธารณรัฐ”
เมื่อพิจารณาวิวัฒนาการของการเกิดขึ้นของแนวคิดเรื่องรัฐชาติฝรั่งเศส (État-nation) เราจะเห็นว่า
มันเริ่มก่อตัวอย่างเป็นรูปธรรมมาจากแนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพของนักคิดแห่งศตวรรษที่ 18 และได้พัฒนามา
70
ถึงขีดสุดด้วยการเกิดขึ้นของ “อํานาจนิยมแห่งรัฐ” หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกามูส์ได้ถ่ายทอดภาพ
ของวิวัฒนาการนี้ในประโยคที่ลึกลับ เหมือนดั่งเป็นการร้องเตือนให้ฉุกนึกถึงความต่อเนื่องที่ย้อนแย้งนี้ว่า
69 เราอาจกล่าวได้ว่า จาก “ราษฎร” ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คนฝรั่งเศสได้กลายเป็น “พลเมือง”
ในชั่วเวลาข้ามคืน โดยมี “คําประกาศว่าด้วยสิทธิมนุษยนชนและพลเมือง” (Déclaration des droits de l’homme et du
citoyen) เป็นหลักประกัน “สิทธิ เสรีภาพและภราดรภาพ” (liberté égalité fraternité) ของพลเมืองทุกคน.
70 ผู้เขียนบทความใช้คํานี้โดยอ้างอิงถึงแนวคิดของกามูส์ในความเรียง “ว่าด้วยเรื่องกิโยติน” ที่ว่าสังคมและ
รัฐฝรั่งเศสได้กลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดหรือคุณค่าสูงสุดที่ไม่สามารถแตะต้องได้ แทนที่คุณค่าและศรัทธาของศาสนา.