Page 100 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 100
วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา 99
บทนํา
ความขัดแย้งก่อกําเนิดมาพร้อมกับมนุษยชาติ เมื่อคนหมู่มากหลากหลายความคิดมาอยู่รวมกันใน
สังคม ย่อมเกิดความขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์และตํานานวีรบุรุษในกลุ่มชน
ต่างๆ ที่มักบันทึกเรื่องราวความขัดแย้งมากกว่าความสงบสุข
เมื่อเกิดความขัดแย้ง คนในสังคมอาจเลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เนื่องจากสังคมถูกครอบ
ด้วยกระบวนทัศน์ชนิดหนึ่งที่ยอมรับการใช้ความรุนแรง นอกจากนี้มนุษย์ยังมีเหตุผลรองรับการใช้ความ
รุนแรงโดยวิธีแยกตัวเองออกจากมนุษย์คนอื่นๆ สันติวิธีและปฏิบัติการไร้ความรุนแรงซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่ง
ของการยุติความขัดแย้งจึงกลายสภาพเป็นข้อยกเว้น
มโนทัศน์เรื่องการใช้ความรุนแรงปรากฏเด่นชัดในวรรณกรรม แม้โลกวรรณกรรมเป็นโลกแห่ง
จินตนาการ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความจริงหลายประการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความขัดแย้งและความรุนแรงจะ
ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมของทุกกลุ่มชน เนื่องจากความขัดแย้งเป็นพฤติกรรมของมนุษย์โดยไม่แบ่งแยกว่าจะ
เป็นชนชาติใด
หากอธิบายตามหลักของวรรณกรรมวิจารณ์จะพบว่าความขัดแย้งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ
วรรณกรรมซึ่งสําคัญมาก ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างการผูกปมที่จะนําไปสู่จุดสุดยอด อาจเป็นความขัดแย้ง
ระหว่างมนุษย์กับชะตากรรม ระหว่างมนุษย์กับสังคมหรือสภาพแวดล้อม หรือระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน
ซึ่งเรียกว่าความขัดแย้งภายนอก และยังมีความขัดแย้งภายในจิตใจของตัวละครเอง ซึ่งเรียกว่าความขัดแย้ง
ภายใน (อิราวดี ไตลังคะ, 2546: 4) จึงจะเห็นได้ว่าความขัดแย้งเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับวรรณกรรมทั่วโลก
วรรณคดีไทยเรื่องหนึ่งที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์และเพศไว้อย่างเด่นชัด ทั้งยัง
แพร่หลายอยู่ในสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือ เรื่องไกรทอง ที่มีต้นกําเนิดมาจากตํานานพื้นบ้านของ
11
จังหวัดพิจิตร วรรณคดีเรื่องไกรทอง มีเค้าเรื่องมาจากตํานานชาละวัน ของเมืองพิจิตร เล่าถึงจระเข้อกตัญญู
กินตายายผู้เลี้ยงดู แล้วออกอาละวาดกัดกินคนไม่เว้นแต่ละวันจนชาวบ้านเรียกชื่อว่า “ตาละวัน” และเพี้ยน
เป็น “ชาละวัน” (ฉลอง สุวรรณโรจน์, 2542: 1819) วันหนึ่งชาลวันได้คาบลูกสาวของเศรษฐีเมืองพิจิตรไปกิน
“ไกรทอง” ชาวเมืองนนทบุรีจึงอาสามาปราบ จนได้ทรัพย์สมบัติและมีหน้ามีตาอยู่ในเมืองพิจิตรสืบต่อมา
จากตํานานดังกล่าวได้มีผู้นําไปแต่งเป็นบทละครนอกครั้งกรุงเก่าหรือสมัยอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุง
รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงนําบทละครนอกครั้งกรุงเก่าเรื่องไกรทองและเรื่อง
อื่นอีก 4 เรื่อง ได้แก่ สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ มณีพิชัย และคาวี มาพระราชนิพนธ์ใหม่ด้วยสํานวนของพระองค์เอง
ซึ่งเป็นฉบับที่ได้รับความนิยมกว่าสํานวนอื่น เห็นได้จากการจัดพิมพ์ออกเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ต่อมา
11
สะกดตามต้นฉบับ