Page 232 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 232

บทที่ 4 เพศวิถี: หื่น  217

                               มีจิตใจวิปริต หรือมีอาการทางประสาท เพราะไมสามารถควบคุมอารมณเพศ
                               ของตนไดจนตองไปขมขืนผูอื่น การใชคําๆ นี้ในสื่อสะทอนใหเห็นถึงอํานาจของ
                               สื่อมวลชนในการใชถอยคําอยางปราศจากการควบคุม โดยถอยคําที่ใชนี้ยังชี้นํา

                               การตัดสินคุณคาของการกระทําบางอยางวา ดีหรือเลว ผิดหรือถูก โดยที่ผูถูก
                               ประณามดวยคําๆ นี้ไมมีทางตอบโต อีกทั้งยังเปนการสงผานความเขาใจผิด

                               เกี่ยวกับการขมขืนผานคําๆ นี้ วาผูขมขืนตองเปนผูที่มีจิตใจไมปกติ หรือไมก็
                               เปนผูหมกมุนในเรื่องเพศ (เพราะแสดงอาการหื่นออกมา) ทั้งที่จริงๆ แลวการ
                               ขมขืนอาจเกิดไดจากหลายสาเหตุ เชนเดียวกับที่ผูขมขืนก็มาจากหลายชนชั้น
                               เปนผูที่มีบุคลิกภาพที่หลากหลาย และสวนใหญไมไดมีอาการทางประสาท อีกทั้ง

                               ในความเปนจริงผูสื่อขาวเองก็ไมไดเปนผูที่อยูในเหตุการณเมื่อเกิดการขมขืน
                               แตกลับบรรยายเหตุการณราวกับวาตนเองอยูในที่เกิดเหตุ และจงใจเลือกใช
                               คําวา “หื่น” เพื่อตองการเนนใหผูอานไดจินตนาการตาม หรือเห็นภาพโดย

                               ไมใสใจกับผลที่ตามมาจากการเขียนขาวในลักษณะอยางนี้เปนตน
                                     ความเขาใจผิดอีกประการหนึ่งที่สะทอนออกมาในเรื่องของการใชคําวา
                               “หื่น” ก็คือ การที่คําๆ นี้เปนคําที่ใชกับผูชายเปนหลัก ซึ่งแสดงถึงบรรทัดฐาน
                               คานิยมในเรื่องเพศของสังคมไทยวา ผูที่มีเพศภาวะชายเทานั้นที่จะแสดงความ

                               ตองการทางเพศ เปนฝายรุก หรือเปนผูกระทําทางเพศได ขณะที่ผูหญิงเอง
                               ไมควรแสดงความตองการทางเพศของตนเองออกมา ชุดคําที่อธิบายพฤติกรรม
                               “อยากมีเพศสัมพันธ” ของผูหญิง จะเปนคําที่ออกแนวเชิญชวนใหมีเพศสัมพันธ

                               ดวยมากกวาจะเปนคําที่บงบอกถึงการแสดงความตองการมีเพศสัมพันธ
                               อยางเชน คําวา เลนหูเลนตา ใหทา ออย หรือ ราน เปนตน
                                     นอกจากนี้คําวา “หื่น” ยังสะทอนใหเห็นถึงเรื่องของเพศภาวะกับการใช

                               ภาษาอีกดวย โดยในขณะที่ผูชายกับพฤติกรรมการแสดงอารมณผานการใช
                               คําหยาบถูกมองเปนเรื่องปกติ แตผูหญิง (โดยเฉพาะผูหญิงชนชั้นกลาง และ
                               ผูหญิงที่ยังไมแตงงาน) กลับถูกกํากับและคาดหวังจากสังคมวาไมควรพูดคํา

                               ไมสุภาพ หรือคําที่เปดเผยถึงเรื่องเพศ หรือแสดงอารมณความตองการทางเพศ
                               ผูหญิงที่แสดงความปรารถนาทางเพศออกมาอยางเปดเผย หรือพูดถึงเรื่องเพศ
                               อยางเปดเผย จะถูกมองวาเปนผูหญิงที่ผานประสบการณการมีเพศสัมพันธ
                               มาแลว หรือเปนผูหญิงที่เชี่ยวชาญในเรื่องการมีเพศสัมพันธ เชน ผูหญิง


                                                        สุไลพร ชลวิไล
   227   228   229   230   231   232   233   234   235   236   237