Page 87 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 87

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                     กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 29

               ยังได้มีการก าหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าการปฏิบัตินั้นเป็นเพียงการปฏิบัติแตกต่างกันอันสามารถ

               ท าได้ หรือเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อกฎหมาย โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีตัวอย่างเช่น หลักขอบแห่งดุลพินิจ
               (Margin of Appreciation) การชั่งน้ าหนักกับผลประโยชน์อื่น มาตรการยืนยันสิทธิเชิงบวก (Affirmative
               Action) เป็นต้น
                          เมื่อพิจารณาตามกรอบแนวคิดที่ขยายความออกมานี้ ท าให้สามารถจ าแนกสภาพข้อเท็จจริง
               หรือการปฏิบัติที่มีปัญหาว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่นั้น ได้สองกรณีคือ

                          (1) การปฏิบัตินั้นเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน แต่ยังไม่เข้าองค์ประกอบของการเลือกปฏิบัติตาม
               กฎหมายสิทธิมนุษยชน
                          (2) การปฏิบัตินั้นเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน และเข้าองค์ประกอบของการเลือกปฏิบัติตาม

               กฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งโดยหลักแล้ว การปฏิบัติที่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ (Discrimination) นี้ จัดเป็นการ
               ปฏิบัติที่ขัดต่อหลักความเสมอภาคหรือความเท่าเทียมกัน
                          ในความหมายทั่วไป มักมีการพิจารณาว่า การเลือกปฏิบัติที่เป็นธรรม คือการเลือกปฏิบัติโดยมี
               เหตุผลที่ชอบธรรมหรือเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย ส าหรับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนั้น มีลักษณะตรงกัน
               ข้ามกล่าวคือไม่มีเหตุผลที่ชอบธรรมรองรับ แนวคิดและความหมายดังนี้จะส่งผลเป็นการจ าแนกความแตกต่าง

               ระหว่าง “การเลือกปฏิบัติ (ที่เป็นธรรม)” ที่ไม่ต้องห้ามและสามารถปฏิบัติแตกต่างกันได้ กับ “การเลือกปฏิบัติ
               (ที่ไม่เป็นธรรม)” อันต้องห้ามตามกฎหมาย
                                             39
                         เมื่อพิจารณาบทบัญญัติรัฐธรรมนูญของไทยแล้วจะพบการจ าแนกความแตกต่างระหว่าง “การ

               เลือกปฏิบัติ” และ “การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม” ดังนี้
                         รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ได้บัญญัติเกี่ยวกับความเสมอภาค และ
               ห้ามเลือกปฏิบัติ ไว้ใน 3 มาตรา ได้แก่
                         มาตรา 5 ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่าก าเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ใน ความคุ้มครองแห่ง
               รัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน

                         มาตรา 30 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน
               ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
                         การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นก าเนิด เชื้อชาติ

               ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทาง
               ศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระท ามิได้
                         มาตรการที่รัฐก าหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้
               เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
                           มาตรา 80 รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความเสมอภาคของหญิงและ

               ชาย เสริมสร้างและพัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัวและความเข้มแข็งของชุมชน


                    39 จาก รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ. เล่มเดิม. (น. 220).
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92