Page 89 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 89

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   87
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565



                 2.  กำรประกอบธุรกิจกับกำรเคำรพ                    ผู้ประกอบการ โดยการร่วมก�าหนดเค้าโครงเนื้อหา
                   สิทธิมนุษยชน                                    หลักสูตรอบรมธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของมหาวิทยาลัย

                                                                   บูรพา ส�าหรับผู้ประกอบการหรือผู้สนใจ
                                                                                                    369
                 สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค
                        ในปี 2565 มีความคืบหน้าในการสร้างความร่วมมือ

                 และผลักดันประเด็นสิทธิมนุษยชนให้ภาคธุรกิจน�าไป
                 ปฏิบัติให้เกิดผลมากขึ้น เช่น การลงนามบันทึกข้อตกลง

                 เพื่อก่อตั้ง “สถาบันธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” (BHR
                 Academy) ระหว่างสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก
                 แห่งประเทศไทย (GCNT) กับกรมคุ้มครองสิทธิและ

                 เสรีภาพ ยธ. ส�านักงานคณะกรรมการก�ากับหลักทรัพย์
                 และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน   ที่มา : ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                 แห่งชาติ และส�านักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ          อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ยังคงปรากฏว่า
                 (UNDP)  ส�านักงาน กลต. จัดท�าโครงการธุรกิจกับ     ภาคเอกชนประกอบธุรกิจที่ยังขาดความตระหนักและ
                        365
                 สิทธิมนุษยชนส�าหรับภาคธุรกิจในตลาดทุนไทย ระยะที่ 2    ส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนหลายกรณี อาทิ กรณี

                 ในหลักสูตร “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนส�าหรับภาคธุรกิจใน   แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์รายหนึ่งส่งเสริมการขาย
                 ตลาดทุน” ทั้งนี้ ในปี 2565 เป็นปีแรกที่บริษัทที่จดทะเบียน   มีลักษณะล้อเลียนหรือพาดพิงผู้พิการหรือผู้ทุพพลภาพ
                 ในตลาดหลักทรัพย์ต้องส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจ�าปี    กสม.  จึงมีแถลงการณ์แสดงความห่วงใยและให้

                 หรือ 56-1 One Report  นอกจากนี้ จากการที่ประเทศไทย   ภาคธุรกิจและผู้มีอิทธิพลในสื่อออนไลน์จัดท�าสื่อโดยค�านึงถึง
                                   366
                 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีแรงงานข้ามชาติหญิง   ความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อสนับสนุนการสื่อสารอย่าง
                 ในธุรกิจก่อสร้างมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจ�านวน   สร้างสรรค์ รวมทั้งการด�าเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชน

                 แรงงาน 200,000 คน หรือร้อยละ 40 ของแรงงาน         ตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของ
                 ข้ามชาติทั้งหมด มูลนิธิศุภนิมิตฯ จึงได้ร่วมมือกับภาคธุรกิจ  สหประชาชาติ 370

                 ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ด�าเนินโครงการน�าร่องในปี
                 2565 สนับสนุนแรงงานในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย    3.  ควำมท้ำทำยต่อประเด็นหลักตำมแผน
                 10 แห่ง ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิแรงงานและกลไก     NAP

                 ความช่วยเหลือต่าง ๆ จากรัฐ โดยเน้นกลุ่มแรงงานหญิง
                 บุตรของแรงงานก่อสร้าง และในปี 2566 จะขยายไปยัง    สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค

                 แรงงานข้ามชาติชายและกลุ่มแรงงานไทยต่อไป  ส�าหรับ          ในภาพรวมการปฏิบัติตามแผน NAP ระยะที่ 1
                                                       367
                 การส่งเสริมความรู้ด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน กสม. ได้จัด   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ด�าเนินการตามแผนงานหรือ
                 กิจกรรมเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเด็นธุรกิจกับ   กิจกรรมแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีสถานการณ์ปัญหา

                 สิทธิมนุษยชนให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่    หรือข้อท้าทายซึ่งเป็นผลจากการติดตามสถานการณ์และ
                 จ. ภูเก็ต  รวมทั้งได้มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา  การด�าเนินการของ กสม. ใน 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
                        368
                 ในการส่งเสริมความรู้เรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนแก่














        001-234 V9 CS6.indd   87                                                                                   3/14/23   8:40 PM
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94