Page 65 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 65

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   63
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565
 บทที่ 4                กำรประเมินสถำนกำรณ์ด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม





 กำรประเมินสถำนกำรณ์                                      สิทธิแรงงำน




                        ในปัจจุบันสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคม    หลักการ “3 ขอ” คือ (1) “ขอเลือก” โดย ให้ผู้ประกันตน
 ด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม    ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น   สามารถขอเลือกรับเงินบ�าเหน็จหรือเงินบ�านาญ

                 โดยเฉพาะเมื่อมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ท�าให้
                                                                   ชราภาพได้ (2) “ขอคืน” ในกรณีเกิดเหตุการณ์อันส่ง
 และวัฒนธรรม     ต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคม รวมถึง   ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของผู้ประกันตน ให้สามารถน�า

                 การประกอบอาชีพอิสระที่เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์หรือ
                                                                   เงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อนได้ และ
                 รูปแบบในการจ้างงานที่แตกต่างจากเดิม เช่น การท�างาน  (3) “ขอกู้” โดยการน�าเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็น
                 ในระบบแพลตฟอร์ม การประกอบอาชีพรับส่งสินค้าหรือ    หลักประกันกับสถาบันการเงินได้  นอกจากนี้ รัฐบาลได้
                                                                                             227
                 อาหาร (ไรเดอร์) เป็นต้น นอกจากนี้ ในปี 2565 ยังคง  แก้ไขปัญหาการว่างงานอันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์
                 มีสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงานที่ส�าคัญซึ่งเป็น   การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งมาตรการส่งเสริม

                 ปัญหาต่อเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ       การจ้างงานและการฝึกทักษะฝีมือ อาทิ การส่งเสริม
                 โรคโควิด 19 ที่ส่งผลให้แรงงานถูกเลิกจ้างและส่งผลกระทบ   การศึกษาและการมีงานท�าให้แก่นักศึกษาและแรงงาน
                 ต่อการมีมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอของแรงงานและ   โดยพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้น โครงการส่งเสริมและรักษา
                                                                                          228
                 ครอบครัว โดยเฉพาะแรงงานบางส่วนที่ไม่มีสวัสดิการทาง   ระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs  โครงการความร่วมมือ
                                                                                             229
                 สังคม รวมถึงแรงงานยังประสบปัญหาการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม   การพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
                 หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้    กับการพัฒนาอาชีพสู่สังคมดิจิทัลส�าหรับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส


                                                                                       230
                     ยังคงมีสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน        ในสังคม ผู้มีรายได้น้อย  การจัดหาต�าแหน่งงานเชิงรุก
                                                                                                     231
                   ที่สำาคัญที่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากสถานการณ์    และบรรจุไว้ในแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานท�า”  และการปรับ
                 การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลให้แรงงาน      อัตราค่าจ้างขั้นต�่าของแรงงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
                   ถูกเลิกจ้างและส่งผลกระทบต่อการมีมาตรฐาน         2565  232

                 การครองชีพที่เพียงพอของแรงงานและครอบครัว                  ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามส่งเสริมการจ้างงาน
                                                                   และการเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้แก่แรงงานในระบบ
                 1.  แรงงำนในระบบ                                  แต่ในปี 2565 ยังคงพบสถานการณ์ส�าคัญด้านสิทธิแรงงาน

                 สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค                        และมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ อาทิ


                        แรงงานในระบบได้รับความคุ้มครองทางสังคม             การว่างงานหรือการถูกเลิกจ้าง
                 ตามระบบประกันสังคม โดยในปี 2565 รัฐบาลได้มีการ            ผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาด

                 แก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการคุ้มครอง   ของโรคโควิด 19 โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2565 มีผู้ประกันตน
                 แรงงาน เช่น การแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541   มาตรา 33 จ�านวน 11,483,671 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.48
                 ให้บุคคลที่รับเหมาในหน่วยงานของรัฐได้รับการคุ้มครอง  จากเดือนตุลาคมปี 2564 ที่มีเพียง 10,990,798 คน

                 ไม่ต�่ากว่ากฎหมายแรงงาน การเพิ่มวันลาคลอดบุตร     แต่ยังคงมีจ�านวนน้อยกว่าในปี 2562 ที่มีผู้ประกันตน
                 ให้ลูกจ้างหญิง การลาเพื่อไปช่วยภริยาเลี้ยงดูบุตร 225,226      มาตรา 33 จ�านวน 11,622,267 คน ในส่วนสถานการณ์
                 การแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยเพิ่ม  การว่างงานพบว่าดีขึ้นกว่าปี 2564 โดยเดือนตุลาคม 2565










        001-234 V9 CS6.indd   63                                                                                   3/14/23   8:40 PM
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70