Page 63 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 63

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   61
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565



                 ให้ ตร. ก�าชับเจ้าหน้าที่ต�ารวจซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุม  3. เสรีภำพในกำรรวมกลุ่ม
                 และดูแลสถานการณ์การชุมนุมต้องอ�านวยความสะดวก
                 และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ท�าหน้าที่รายงาน               สืบเนื่องจาก ครม. มีมติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์

                 สถานการณ์และข้อเท็จจริงอย่างเสรี โดยไม่สร้างอุปสรรค  2564 อนุมัติหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการด�าเนินงาน
                 อันเป็นการกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในการปฏิบัติ     ขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือก�าไรมาแบ่งปันกัน
                 หน้าที่ของสื่อมวลชนเกินความจ�าเป็น 220            เพื่อให้มีกฎหมายกลางในการก�ากับการด�าเนินงานของ
                                                                   องค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เปิดเผย
                        นอกจากนี้ ยังพบว่ามีหลายกรณีที่สื่อมวลชน   โปร่งใส ในขณะที่ภาคประชาสังคมมีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับ

                 รายงานข่าวโดยไม่เป็นไปตามจรรยาบรรณวิชาชีพ         กฎหมายที่อาจกระทบต่อเสรีภาพในการรวมกันเป็น
                 ส่งผลกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่น โดยเฉพาะเหตุการณ์
                 ความรุนแรงที่ จ. หนองบัวล�าภู โดยมีการน�าเสนอข่าว   สมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น
                 ในลักษณะที่อาจเป็นการรบกวนหรือละเมิดสิทธิ         ความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ สิทธิและเสรีภาพ
                 ในความเป็นอยู่ส่วนตัวของเหยื่อหรือบุคคลในครอบครัว    ในชีวิตและร่างกาย เสรีภาพในความเป็นอยู่ส่วนตัว และ

                 แม้ว่า กสม. เคยมีข้อเสนอแนะในการท�าหน้าที่ของ     เสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร กสม. จึงหยิบยกประเด็น
                 สื่อมวลชนให้มีความระมัดระวังและไม่ให้กระทบต่อ     ดังกล่าวขึ้นพิจารณาศึกษาและจัดท�าข้อเสนอแนะต่อ ครม.
                 สิทธิของบุคคลอื่น  และ กสทช. จะผลักดันให้องค์กร   และส�านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการจัดท�า
                                221
                 สื่อมวลชนมีการจัดท�าคู่มือจริยธรรมและก�ากับดูแลกันเอง   ร่างกฎหมาย อาทิ การรับฟังความคิดเห็นให้มีรูปแบบ
                 ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งหารือ   ที่หลากหลาย มีระยะเวลาที่เพียงพอเหมาะสม ให้ทบทวน
                 กับผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลเกี่ยวกับกลไกการก�ากับดูแล   หลักการที่มุ่งเน้นการควบคุมตรวจสอบและการจ�ากัด
                 กันเองขององค์กรสื่อมวลชนแล้วก็ตาม ทั้งนี้ การท�าหน้าที่   เสรีภาพในการรวมกลุ่มโดยไม่ต้องถูกบังคับให้จดทะเบียน
                 ของสื่อมวลชนจะได้รับการคุ้มครองเสรีภาพของสื่อมวลชน   การก�าหนดนิยามค�าว่า “องค์กรไม่แสวงหาก�าไร” การยกเลิก

                 ไว้ตามรัฐธรรมนูญและกติกา ICCPR แต่การใช้เสรีภาพ   บทลงโทษทางอาญาและการควบคุมองค์กรที่มีความเสี่ยง
                 ต้องไม่กระทบต่อบุคคลอื่นด้วยเช่นกัน               ที่จะสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือกระท�า

                                                                                                               222
                 ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง                ผิดกฎหมายโดยเฉพาะเจาะจงไม่ใช่การเหมารวม
                 สิทธิมนุษยชน                                      ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้น�าข้อเสนอแนะดังกล่าวของ กสม.
                                                                   ไปพิจารณาประกอบการปรับปรุงร่างกฎหมาย
                        กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้

                        1) รัฐบาลควรพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การคุ้มครอง         ต่อมา เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ครม. มีมติ
                 สิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพ    เห็นชอบแนวทางการยกร่าง พ.ร.บ. การด�าเนินกิจกรรมของ
                 สื่อมวลชน พ.ศ. .... อย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นกฎหมาย   องค์กรไม่แสวงหาก�าไร พ.ศ. .... โดยมอบหมายให้ พม.
                                                                                                               223
                 ที่สนับสนุน พัฒนา และคุ้มครองการท�าหน้าที่สื่อมวลชน  เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย
                 ให้สอดคล้องกับเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างแท้จริง     แต่ภาคประชาสังคมยังคงมีความห่วงกังวลต่อเนื้อหาของ

                 โดยไม่เป็นการสร้างข้อจ�ากัดต่อสื่อมวลชนจนเกินสมควร  ร่างกฎหมายและมีการเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้าน  ซึ่ง กสม.
                                                                                                        224
                        2) รัฐบาลโดย ตร. ควรด�าเนินการตามแนวทางใน  จะติดตามความก้าวหน้าของการปรับแก้ไขร่างกฎหมาย
                 การท�าหน้าที่ของสื่อมวลชนในพื้นที่การชุมนุมสาธารณะ  ดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญและกติกา ICCPR
                 ที่ได้หารือกับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด   ข้อ 22 ที่รับรองเสรีภาพในการรวมกลุ่ม รวมทั้งรายงาน

                 โดยเฉพาะมาตรการดูแลความปลอดภัยของสื่อมวลชน        ข้อเสนอแนะ UPR รอบที่ 3 ที่ประเทศไทยได้ตอบรับ
                 ในสถานการณ์ชุมนุม ที่จะกระทบต่อการใช้เสรีภาพของ
                 สื่อมวลชนเท่าที่จ�าเป็น








        001-234 V9 CS6.indd   61                                                                                   3/14/23   8:40 PM
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68